วันอาทิตย์ ที่ 13 มกราคม พ.ศ.2562 นายถงเจิ้นหยวน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวัน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย
และผู้มีจิตเมตตาจากแวดวงต่างๆ ได้มารวมตัวกัน ณ สถานธรรมจิ้งซือ มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย เพื่อร่วมพิธีอธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความหวังใหม่ จิตอาสาฉือจี้ต่างปณิธานกับตนเองว่า ตลอดปีนี้จะมุ่งมั่นบนเส้นทางแห่งการบำเพ็ญวีถีพระโพธิสัตว์ให้มากยิ่งขึ้น ตามคำอวยพรของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน คือ “ให้เกียรติสำนึกคุณ รักสรรพชีวิต เคารพสามัคคี ร่วมสร้างนาบุญ”
1
ให้เกียรติสำนึกคุณ รักสรรพชีวิต
กระถางต้นไม้นานาพรรณ ผลไม้สดนานาชนิด ถือเป็นจุดเด่นของการจัดตกแต่งสถานธรรมจิ้งซือในวันนี้ จิตอาสาฉือจี้ คุณกมลรัตน์ แซ่กัว กล่าวว่า ขอขอบพระคุณครอบครัวชาวฉือจี้ทุกท่าน ที่อนุเคราะห์สิ่งของตกแต่งสไตล์จีนที่มีอยู่แล้วในบ้านของตนเอง เพื่อมาเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับสถานธรรมจิ้งซือในวันนี้ อาศัยสิ่งของที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ มาถ่ายทอดวัฒนธรรมอันดีงามของมนุษย์ตามวิถีฉือจี้
นอกจากนั้น คุณกมลรัตน์ ยังได้ผลักดันให้ชาวฉือจี้ ชักชวนบุตรหลานในครอบครัว มาร่วมเป็น “จิตอาสาตัวน้อย” พร้อมทั้งนำหลานสาวทั้งสองคนของตน มาร่วมทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้แขกผู้มีเกียรติในพิธี หวังให้สภาพแวดล้อมที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมอันดีงามของฉือจี้ บ่มเพาะให้เด็กๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ณ มุมชงชา จิตอาสาต้อนรับแขกผู้มีเกียรติด้วยวีถีชาอันงดงาม
จากห้องประชุมที่ใช้ทำงาน วันนี้กลายเป็นพื้นที่ถ่ายทอดอาหารทางจิตวิญญาณแห่งความดีงาม ผ่านวิถีการชงชาและจัดดอกไม้ ภายใต้เต็นท์ขาวหลังใหญ่ ที่เคยเป็นพื้นที่ออกหน่วยรักษาโรคฟรี ก็กลายเป็นพื้นที่ “ตลาดนัดถนอมบุญ” เพื่อให้ผู้มีจิตเมตตา ได้ร่วมสร้างบุญผ่านอีกรูปแบบหนึ่ง
ณ ตลาดนัดถนอมบุญ ทุกคนเลือกซื้อหาสิ่งของที่ตนเองต้องการ เพื่อร่วมกันยืดอายุสิ่งของ
ศิลปินพู่กันจีนจากไต้หวัน คุณชิวซานเถิง สาธิตวิธีการเขียนพู่กันจีนแก่นักเรียนที่มาร่วมพิธีอธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
ศ. ดร.นพ. วิปร วิประกษิต ซึ่งเคยเดินทางไปศึกษาดูงานที่ฉือจี้ไต้หวัน จนเกิดความรู้สึกประทับใจ ได้ตอบรับคำเชิญของจิตอาสาฉือจี้ มาร่วมพิธีอธิษฐานบุญในวันนี้ หลังจากได้รับการ์ดอวยพรกุศลปัญญา ทำให้ท่านเกิดความปีติเป็นอย่างยิ่ง โดยกล่าวว่า “ผมรู้สึกประทับใจต่อการ์ดอวยพรกุศลปัญญาเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้ทำ นอกจากนี้ ภายในการ์ดก็ยังมีเมล็ดข้าว ซึ่งมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ เตือนให้เราตระหนักว่า ต้องร่วมดูแลรักษาธรรมชาติของเราให้ดีตามแนวคิดของฉือจี้ครับ” การ์ดอวยพรกุศลปัญญา เป็นของขวัญปีใหม่อันล้ำค่า เพราะถ่ายทอดคำสอนของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ที่กำชับให้เราส่งมอบความรัก ความเมตตา ทั้งต่อตนเอง ต่อเพื่อนมนุษย์และต่อโลกที่เราอยู่อาศัยใบนี้
ผู้ดำเนินรายการ คุณวัชราภรณ์ ทิพย์ธวัชวงศา และคุณจารุภา เตชะศิรินุกูล อธิบายความหมายของการ์ดอวยพรกุศลปัญญา
ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมากที่สุด ประธานบริหารมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย
คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ มอบการ์ดอวยพรกุศลปัญญาให้กับผู้ร่วมพิธี
พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา รู้สึกศรัทธาในแนวทางการสอนของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน และความตั้งใจในการทำความดีของชาวฉือจี้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยท่านกล่าวว่า ภัยพิบัติต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์เราทั้งสิ้น ดังนั้น หากเราต้องการให้โลกร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากภัยพิบัติ ก็ต้องมาพยายามร่วมกันกับชาวฉือจี้ นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า “การที่ฉือจี้สอนให้ผู้คนทำดีและเป็นคนดีนี้แหละ คือแนวทางที่ดีที่สุด ในการลดและป้องกันภัยพิบัติไม่ให้เกิดขึ้น”
จิตอาสาฉือจี้และผู้มีจิตศรัทธา ตั้งจิตอธิษฐานด้วยความศรัทธา
2
เคารพสามัคคี ร่วมสร้างนาบุญ
พระครูสันติธรรมรังษี (หลวงปู่ไมตรี วรมิตฺโต) จากวัดป่าแสงธรรม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการรับชมวีดิทัศน์ “ย้อนรอยประวัติศาสตร์ฉือจี้ทั่วโลก ตลอดปี พ.ศ.2561” ที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงความทุ่มเทของชาวฉือจี้ ที่นำความรักและความห่วงใยไปมอบแด่ผู้คนทั่วโลก ภายใต้การชี้แนะของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน โดยพระครูสันติธรรมรังษีบอกเล่าว่า “อาตมารู้สึกทึ่ง ในสิ่งที่ท่านธรรมาจารย์ได้อุทิศให้กับโลก เพราะท่านสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงผู้คนบนโลก ให้เกิดความรักความเข้าใจต่อกันมากยิ่งขึ้นได้”
พระครูสันติธรรมรังษี ยังได้กล่าวอีกว่า ท่านอยากให้คนไทย ได้มีโอกาสมารู้จักและสัมผัสกับฉือจี้ตามความเป็นจริงมากขึ้น ดังนั้น ด้วยการสนับสนุนงบประมาณของผู้มีจิตศรัทธา พระครูสันติธรรมรังษีจึงจะเขียนและตีพิมพ์หนังสือเรื่อง “ทำไมคนไทยควรรู้จักประเทศไต้หวันและมูลนิธิพุทธฉือจี้” จำนวน 2,000 เล่ม เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับทั้งฆราวาส และผู้นำทางจิตวิญญาณ อย่างพระภิกษุสงฆ์ ตลอดถึงแม่ชี ได้รู้ว่ามีภิกษุณีท่านหนึ่งที่ไต้หวัน ได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ ที่เป็นประโยชน์ต่อโลก
ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นสมาชิกผู้บริจาคสนับสนุนมูลนิธิพุทธฉือจี้มาอย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า รู้จักฉือจี้มานาน และเห็นผลงานของชาวฉือจี้มาโดยตลอด ไม่เพียงแค่การสงเคราะห์ด้วยปัจจัย ทำให้ผู้ยากไร้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทว่ายังเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ เคียงข้างให้พวกเขาสามารถยืนหยัดได้ด้วยสองขาของตนเองอีกครั้ง “ฉือจี้ดูแลคนยากจน หรือคนที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งดี ที่เราน่าจะช่วยกันส่งเสริมทางใดทางหนึ่ง ผมเองอาจจะไม่มีเวลา ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะไปร่วมลงแรง เลยยินดีร่วมสมทบทุนครับ”
จิตอาสาฉือจี้ คุณไช่ลี่กาน นำใบเสร็จบริจาคไปมอบให้กับ
ศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ และขอบพระคุณการบริจาคสนับสนุนมูลนิธิพุทธฉือจี้มาอย่างต่อเนื่อง
ดร.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนึ่งในสมาชิกผู้บริจาคสนับสนุนมูลนิธิพุทธฉือจี้อย่างต่อเนื่องกล่าวว่า ฉือจี้ทำประโยชน์ ไม่ใช่เฉพาะคนไต้หวัน แต่เป็นคนทั่วทั้งโลก “จิตอาสาทุกคนช่วยเหลือด้วยทรัพย์สินส่วนตัว ซึ่งถือว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ได้จำกัดความช่วยเหลือไว้แค่คนในครอบครัว หรือแค่คนในไต้หวัน แต่เป็นคนทั่วทั้งโลก” ปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ที่ผู้มีจิตเมตตาบริจาคให้ฉือจี้ จะถูกนำไปส่งมอบถึงมือของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคทุกประการ และความรักอันยิ่งใหญ่ของฉือจี้ ยังไม่เคยถูกจำกัดด้วยความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ดังนั้น ท่านจึงยินดีที่จะเป็นสมาชิกผู้บริจาค ร่วมนำความรักไปดูแลเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก
3
พลิกชีวิตเปลี่ยนเป็น “ผู้ให้”
จากโครงการสงเคราะห์ทุนการศึกษาต้นกล้าแห่งความหวัง ทำให้คณะครูและนักเรียน โรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม เขตบางคอแหลม กทม. ได้มีโอกาสรู้จักกับฉือจี้ วันนี้ คุณครู 3 ท่าน นำนักเรียน 10 คน มาเยี่ยมเยือนสถานธรรมจิ้งซือด้วยตนเอง เพื่ออาศัยโอกาสนี้ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้แนวคิดจิตวิญญาณ การเสียสละโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนกับชาวฉือจี้ รวมถึงการดำเนินชีวิตด้วยความพากเพียรและมัธยัสถ์
นักเรียนทุนการศึกษาต้นกล้าแห่งความหวังฉือจี้ นำกระปุกออมบุญของตนเองมาร่วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก
หลังจากได้รับมอบกระปุกออมบุญ เมื่อครั้งรับทุนการศึกษาต้นกล้าแห่งความหวัง ประจำปีการศึกษา 2561 ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เด็กๆ ต่างก็ทุ่มเท “ออมเงินเล็ก สร้างบุญใหญ่” หยอดเงินวันละหนึ่งบาทลงในกระปุกออมบุญ เพื่อนำมาบริจาคสมทบกองทุนสงเคราะห์ผู้ยากไร้ กับมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย ในวันนี้
ด.ญ.ปัญาภัทร บอกเล่าความตั้งใจในการร่วมออมบุญของตนเองว่า “หนูอยากช่วยค่ะ เพราะว่าฉือจี้จะนำเงินของเรา ไปช่วยเหลือเด็กยากไร้หรือผู้ที่ประสบภัยต่อไป ซึ่งพวกหนูก็ยินดีที่จะบริจาคให้ฉือจี้ค่ะ”
ขอบพระคุณความร่มเย็นในวันวานที่ผ่านมา ขอให้ปีใหม่ที่มาถึง สามารถรังสรรค์สร้างนาบุญ ได้ทุกวัน ตลอดปีและ ตลอดไป
เรื่อง บุษรา สมบัติ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี, ดรรชนี สุระเทพ, บุษรา สมบัติ