1
แบ่งปันประสบการณ์ฝึกงาน
เหตุผลที่ทำให้ฉันตัดสินใจมาฝึกงานที่ มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย เป็นเพราะว่าเมื่อ พ.ศ. 2559 ฉันเคยเข้าร่วมโครงการเยาวชนจีนโพ้นทะเลทัศนศึกษา ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน (ไต้หวัน) ดังนั้น จึงได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์ภารกิจวัฒนธรรมอันดีงามของฉือจี้ หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมชม ทำให้ฉันรู้สึกสนใจและประหลาดใจไปพร้อม ๆ กัน ที่ฉือจี้สามารถขยายสาขาได้ถึง 52 ประเทศทั่วโลก สร้างความสงสัยอย่างมากว่า ทำไมจึงมีผู้คนให้ความเคารพ ศรัทธาต่อฉือจี้มากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังมีการสร้างสถานีโทรทัศน์ของตนเอง (สถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย) ดังนั้น ฉันจึงถือโอกาสในช่วงเวลาฝึกงานนี้ มาศึกษาฉือจี้ เพื่อหวังว่าจะสามารถช่วยให้ตนเองได้ทำความรู้จักและเข้าใจฉือจี้ให้มากขึ้น
▲ได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่โรงเรียน เรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพ
▲ผลงานจากการฝึกฝนถ่ายภาพของตนเอง
2
ความทรงจำอันแสนล้ำค่า
ตลอดสี่เดือนที่ผ่านมา การฝึกงานที่ฉือจี้ทำให้ฉันได้เรียนรู้และรับประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามา ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย จนตอนนี้ทักษะของฉันก็มีความก้าวหน้าและพัฒนามากขึ้น ฉือจี้ไม่เพียงแต่เปิดโลกใบใหม่ให้แก่ฉัน หากยังสอนให้ฉันเข้าใจในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น ได้ลองทำสิ่งที่ท้าทายความสามารถของตนเอง และเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ฉันไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน
ในช่วงระยะเวลาการฝึกงาน นอกจากจะได้เรียนรู้งาน เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากฝ่ายวารสารแล้ว ยังได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของฉือจี้ และช่วยเหลืองานในด้านวัฒนธรรมอันดีงามของมนุษย์อีกด้วย ถึงแม้ว่าครั้งแรกที่รับผิดชอบหน้าที่งานแปล มักจะพบกับปัญหา ข้อผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้เกิดอุปสรรค์ต่อความคืบหน้าและผลสำเร็จในการแปลอยู่บ้าง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึก ท้อแท้หรือเบื่อแต่อย่างใด แต่ในทางกลับกัน ฉันรู้สึกว่าการแปลเป็นงานที่มีความน่าสนใจ น่าค้นหางานหนึ่ง มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านหนังสือนิยาย เมื่อเราแปลไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งรู้สึกท้าทายในด้านทักษะ ความสามารถที่มีของตัวเราเอง ทำให้ฉันได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากเนื้อหาการแปลในแต่ละครั้ง อีกทั้งยังสร้างความเข้าใจฉือจี้มากขึ้นอีกด้วย
▲กิจกรรมคลินิคพิเศษ เรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพและสัมภาษณ์
3
เสี้ยววินาทีของความอบอุ่นใจ ประทับใจชัวร์นิรันดร์
ความรู้สึกประทับใจ ตื้นตันใจที่สุดตลอดระยะเวลาฝึกงานที่ผ่านมา เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ? สำหรับฉันแล้วมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเข้ามาฝึกงานที่ฉือจี้ ในตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสเข้าร่วมชั้นเรียนจัดดอกไม้ ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกในการเข้าร่วมชั้นเรียนจัดดอกไม้ร่วมกับจิตอาสาฉือจี้ แต่ว่าทุกคนก็มีน้ำใจ ค่อยช่วยสอนชี้แนะ และดูแลเอาใจใสฉันที่ซึ่งเป็นมือใหม่อย่างดี
▲ในชั้นเรียนจัดดอกไม้ ได้เห็นน้ำใจ ความตั้งใจดีของจิตอาสาฉือจี้
ที่คอยดูแลช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ห่าง ทำให้ฉันรู้สึกวางใจและอบอุ่นใจ
อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานจัดเตรียมกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กิจกรรมคลินิคพิเศษ หรือแม้แต่การเรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพและการสัมภาษณ์ ก็ล้วนแต่สร้างความประทับใจต่อฉันทั้งสิ้น จากการที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของฉือจี้ในทุกๆครั้ง ทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงคำว่า “จิตอาสา” อย่างแท้จริง เห็นได้จากการร่วมแรงร่วมใจกันทำงานของพี่น้องจิตอาสาฉือจี้ เพราะความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทุกคน จึงสามารถทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
▲ช่วยจัดเตรียมงานกิจกรรมพิธีอธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ของมูลนิธิฉือจี้
ขอบคุณมูลนิธิฉือจี้ที่มอบโอกาสในการฝึกงานครั้งนี้ให้แก่ฉัน ฝึกงานครั้งนี้เหมือนเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้แก่ฉัน ได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะของตนเองมากขึ้น ระยะเวลาฝึกงาน 4 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ใกล้จะสิ้นสุดช่วงลาในการฝึกงานแล้ว หวังว่าบุญสัมพันธ์อันดีของฉันกับมูลนิธิฉือจี้จะยังคงอยู่ตลอดไป หลังจากนี้ฉันจะขยันฝึกฝน เพิ่มพูนความรู้ พัฒนาทักษะของตนเองต่อไป
เรื่อง คุณภาวิตา ทิตย์สีแสง