1
แนะนำเตียงพับเอนกประสงค์และผ้าห่มฉือจี้ มอบความช่วยเหลือตามความต้องการของผู้ประสบภัย
ช่วงบ่ายวันที่ 11 สิงหาคม 2561 จิตอาสาฉือจี้แบ่งออกเป็น 2 ทีม โดยทีมแรกเดินทางไปยังศูนย์พักพิงเมืองสะหนามไซ เพื่อสำรวจสภาพความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ส่วนอีกทีมหนึ่งเดินทางไปยังที่ว่าการแขวงอัตตะปือ ซึ่งเป็นศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการใช้เตียงพับเอนกประสงค์และผ้าห่มบรรเทาภัยจากเส้นใยรีไซเคิลฉือจี้
จิตอาสาฉือจี้ คุณหลินฝูเฉวียน แบ่งปันว่า “บ่ายวันนี้ พวกเราจิตอาสาฉือจี้นำเตียงพับเอนกประสงค์และผ้าห่มฉือจี้มาด้วย เพื่อแนะนำให้เจ้าหน้าที่ของที่นี่เข้าใจว่า แม้จะเป็นเพียงแค่เตียงพับและผ้าห่ม แต่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการนำไปแสดงนิทรรศการของหน่วยงานองค์การสหประชาชาติหลายแห่ง และถูกนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหลาย ๆ ประเทศ เราก็หวังว่าทางแขวงฯจะให้ความเชื่อมั่นต่อเรา และวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เราก็จะเข้าพบเจ้าแขวงอัตตะปืออย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อปรึกษาพูดคุยว่า หลังจากที่เราแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่มออกไปสำรวจภัยแล้ว เราจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง และจะรวบรวมข้อมูลเหล่านี้กลับไปรายงานกับท่านธรรมาจารย์ที่ไต้หวัน”
หลังจากที่จิตอาสาฉือจี้สาธิตการใช้เตียงพับเอนกประสงค์ และแบ่งปันว่าผ้าห่มฉือจี้ทำมาจากขวดพลาสติกแล้ว เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการแขวงอัตตะปือต่างก็ประหลาดใจและรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
▲จิตอาสาฉือจี้อีกทีมหนึ่งเดินทางไปยังที่ว่าการแขวงอัตตะปือ (ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย)
เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการใช้เตียงพับเอนกประสงค์และผ้าห่มบรรเทาภัยจากเส้นใยรีไซเคิลฉือจี้
▲จิตอาสาฉือจี้อีกทีมหนึ่งเดินทางไปยังที่ว่าการแขวงอัตตะปือ (ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย)
เพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการใช้เตียงพับเอนกประสงค์และผ้าห่มบรรเทาภัยจากเส้นใยรีไซเคิลฉือจี้
▲เลขาฯเจ้าแขวงอัตตะปือ (ขวา 2) นอนบนเตียง เพื่อทดสอบการรับน้ำหนักของเตียงพับเอนกประสงค์
2
เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิง ให้กำลังใจผู้ตกทุกข์ได้ยาก
จากการเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแขวงอัตตะปือทำให้ทราบว่า นอกจากศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยทั้ง 4 แห่งที่เมืองสะหนามไซแล้ว ยังมีศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยที่เมืองสามัคคีไซ 1 แห่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการแขวงอัตตะปือ จิตอาสาฉือจี้จึงอาศัยโอกาสอันดีเดินทางไปยังศูนย์พักพิงดังกล่าว เพื่อเยี่ยมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย
จากการสอบถามผู้ดูแลศูนย์พักพิงทราบว่า ศูนย์พักพิงแห่งนี้เป็นโรงเรียนมัธยมในเมืองสามัคคีไซ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างปิดภาคเรียน มีผู้ประสบภัยจำนวน 51 ครอบครัว รวม 180 กว่าคน หนึ่งในนั้นเป็นคุณยายท่านหนึ่ง ครอบครัวของท่านมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ในวินาทีเผชิญกับความเป็นความตาย ทุกคนต่างก็รีบหนีภัยน้ำท่วมนั้น พวกเขาไม่ได้หยิบจับทรัพย์สินอันใดติดตัวมาเลย ลูกชายของคุณยายแบ่งปันว่า “ตอนแรกเราไม่มีข้าวกิน เสื้อผ้าก็ไม่มีเปลี่ยน ทรัพย์สินข้าวของอะไรก็ไม่เหลือ แม้แต่เสาไฟ หรือบ้านถูกน้ำพัดหายไปหมดเลย” แม้ปัจจุบันพวกเขาได้อาศัยอยู่ในที่พักที่ปลอดภัย แต่จิตใจของพวกเขายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากที่จิตอาสาฉือจี้เข้าเยี่ยมเยียน พูดคุยให้กำลังใจ ทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย จับมือกันแน่นด้วยมิตรภาพที่ดีต่อกัน
ผู้ดูแลศูนย์พักพิงยังเล่าว่า ต้นเดือนกันยายนโรงเรียนแห่งนี้จะเปิดเทอมแล้ว และจะต้องย้ายผู้ประสบภัยเหล่านี้ไปยังบ้านน็อคดาวน์เมืองสะหนามไซ ฉะนั้น จึงต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเร็ววัน
▲เมื่อทราบว่า นอกจากศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยทั้ง 4 แห่งที่เมืองสะหนามไซแล้ว ยังมีศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยที่เมืองสามัคคีไซ 1 แห่ง
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการแขวงอัตตะปือ จิตอาสาฉือจี้จึงอาศัยโอกาสอันดีเดินทางไปยังศูนย์พักพิงดังกล่าว เพื่อเยี่ยมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย
▲จิตอาสาฉือจี้ คุณบรรจง ป่าทอง เยี่ยมเยียน พูดคุยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
ทำให้คุณยายรู้สึกผ่อนคลาย จับมือกันแน่นด้วยมิตรภาพที่ดีต่อกัน
เรื่อง คุณดรรชนี สุระเทพ ภาพ คุณดรรชนี สุระเทพ