1
นำน้ำใจเยียวยาผู้ประสบภัยหลังน้ำลด
เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในรอบ 50 ปีในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สร้างความเสียหายหนักแก่พื้นที่ทั้งอำเภอบางสะพาน “เจ็บที่กายเขา ปวดที่ใจเรา” หลังจากอาสาสมัครฉือจี้ร่วมประชุมหารือกันแล้ว จึงลงพื้นที่สำรวจภัยพิบัติ เพื่อรับทราบสิ่งที่ผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือ โดยวันที่ 15-16 มกราคมที่ผ่านมา อาสาสมัครได้ดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือภัยด้วยการทำงาน ว่าจ้างผู้ประสบภัยมาร่วมกันทำความสะอาดที่ว่าการอำเภอบางสะพาน และโรงเรียนอนุบาลบางสะพาน
ถึงแม้ว่าปัจจุบันไม่มีฝนตกหนัก ท้องฟ้ากลับมาสดใสดังเดิม น้ำท่วมขังค่อย ๆ ลดจนเข้าสู่สภาวะปกติ ที่ว่าการอำเภอเปิดบริการประชาชนตามปกติ โรงเรียนเริ่มเปิดทำการเรียนการสอนแล้ว ชาวบ้านดำเนินชีวิตตามปกติ ทว่า ยังคงเห็นถึงร่องรอยความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้ คุณแพรวพรรณ ครูโรงเรียนอนุบาลบางสะพาน แบ่งปันว่า “ครั้งที่แล้วที่โดนโคลน โดนน้ำท่วมเราก็ช่วยกันล้าง แต่ก็ยังไม่สะอาดเท่าไหร่ พอให้เด็กนั่งได้ อย่างเช่นชั้นวางหนังสืออันนี้มันก็ยังแข็งแรงดี ครูก็ไม่ได้เอาไปทิ้งนะ มันก็ยังใช้ได้อยู่ ปล่อยให้มันแห้งซักหน่อยหนึ่งก็ใช้ได้แล้ว”
อีกด้านหนึ่งของภาพร่องรอยความเสียหายจากน้ำท่วม ก็คือภาพความอบอุ่นใจ ผู้ปกครองและนักเรียนกำลังเลือกเสื้อผ้ากองโต ที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาบริจาคอยู่ภายในหอประชุมอย่างสนุกสนาน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยังมีสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่หน่วยงานภาครัฐและผู้มีจิตศรัทธานำมาช่วยเหลือมากมายอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ทางโรงเรียนสามารถนำสิ่งของเหล่านี้มาแบ่งให้นักเรียนทุกคนนำกลับไปใช้ที่บ้านได้อย่างทั่วถึง
▲แม้ว่าน้ำจะค่อย ๆ ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ทว่า ร่องรองความเสียหาย
จากน้ำท่วมยังคงหลงเหลืออยู่ อย่างเช่นคราบน้ำบนหน้าต่าง บ่งบอกได้ว่าปริมาณน้ำท่วมสูงแค่ไหน
2
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยความเห็นอกเห็นใจ
จากการที่อาสาสมัครเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัย และดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือภัยด้วยการทำงาน ทำให้เข้าใจถึงความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประสบภัย ดังนั้นจึงพิจารณาให้การช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีกขั้น หวังให้พวกเขาสามารถฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ได้ในเร็ววัน โดยวันที่ 24 มกราคม 2560 อาสาสมัครฉือจี้ในเมืองไทย ได้จัดกิจกรรมมอบสิ่งของบรรเทาภัยใน 2 สถานที่ ได้แก่
1. โรงเรียนอนุบาลบางสะพาน อาสาสมัครมอบเงินช่วยเหลือให้นักเรียนคนละ 500 บาท จำนวน 1,012 คน คุณครูคนละ 1,000 บาท จำนวน 64 คน รวม 1,076 คน
2. ศาลาประชาคมบ้านม้าร้อง(บ่อน้ำซับ) อาสาสมัครมอบเงินช่วยเหลือชาวบ้านตำบลพงศ์ประศาสน์ หมู่ 4 และ หมู่ 5 ครอบครัวละ 500 บาท ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม 1 ถุง น้ำมันพืช 1 ขวด น้ำตาลถุงละ 1 กิโลกรัม 1 ถุง และเกลือถุงละ 1 กิโลกรัม 1 ถุง รวม 348 ครอบครัว
เมื่อได้เห็นอาสาสมัครดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือภัยจากการทำงาน หลังน้ำลดยังมอบเงินช่วยเหลือและสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้าน คุณครูและนักเรียน ทำให้คุณวิโรจน์ โตแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบางสะพาน รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง คุณวิโรจน์แบ่งปันความรู้สึกว่า “การช่วยเหลือของมูลนิธิพุทธฉือจี้ถือว่าเป็นการเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนให้นักเรียนของเรา พวกเขาสามารถเอาไปใช้จ่ายได้ในสิ่งที่จำเป็นที่ยังขาดเหลือ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง”
ในระหว่างดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น คุณวิลัย ปัญญาชีพ อาสาสมัครฉือจี้เสื้อเทา ผู้ซึ่งเดินทางไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ รู้สึกดีใจที่ได้พบกับมีเด็กหญิงชาวมุสลิม ศาสนาเดียวกันกับตน ดังนั้นเมื่อการมอบเงินช่วยเหลือเสร็จสิ้นแล้ว คุณวิลัยจึงได้เข้าไปพูดคุยกับเด็กหญิงชาวมุสลิม พร้อมทั้งอวยพรให้เด็กหญิงมุสลิม และครอบครัวก้าวผ่านอุทกภัยครั้งนี้อย่างปลอดภัย คุณวิลัยแบ่งปันว่า “เขาก็เหมือนลูกเหมือนหลานเรา ดีใจที่ได้พบเจอกันในวันนี้ ทุกศาสนาต่างก็รักกัน ไม่ว่าศานาพุทธ อิสลามหรือคริสต์ล้วนก็รักกัน”
▲ก่อนดำเนินพิธีมอบเงินช่วยเหลือ อาสาสมัครนำคุณครูและนักเรียนแสดงภาษามือประกอบเพลง “ครอบครัวเดียวกัน”
▲จากการมอบเงินช่วยเหลือภัยจากการทำงาน ว่าจ้างผู้ประสบภัยช่วยทำความทำงาน หลังย้ำลดยังมอบเงินช่วยเหลือ
และสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้าน คุณครูและนักเรียน ทำให้คุณวิโรจน์ โตแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบางสะพาน รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
▲มอบเงินช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้กำลังใจพวกเขาเล่าเรียนอย่างอุ่นใจ
▲หวังว่าเงินช่วยเหลือของมูลนิธิพุทธฉือจี้จะสามารถแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้
▲เหมือนได้พบเจอกับลูกหลานตนเอง คุณวิลัย อาสาสมัครฉือจี้เสื้อเทา
สอบถามพูดคุยกับเด็กหญิงชาวมุสลิม พร้อมอวยพรให้ครอบครัวผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย
3
น้ำใจจากทุกคน เป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยก้าวเดินต่อไป
ภัยจากน้ำท่วมก็ผ่านไปหลายวันแล้ว จากการช่วยเหลือที่ได้รับอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ความทุกข์เศร้าของชาวบ้านค่อย ๆ จางหายไป คุณบรรจง ป่าทอง อาสาสมัครฉือจี้ แบ่งปันว่า “จากวันแรก ๆ ที่มาที่นี่ จะเห็นว่าแววตาของชาวบ้านมีความรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ มาถึงตอนนี้จิตใจของชาวบ้านก็เข้าสู่สภาวะที่พอรับได้ เป็นไปตามที่เป็นไป ส่วนของที่ได้รับแจกก็พอกินพอใช้”
เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ ชาวบ้านต่างก็รู้สึกดีใจ คุณกัลยา หนึ่งในผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ แบ่งปันว่า “แม้มันของเล็กน้อย แต่เมื่อเราได้รับ เรารู้สึกว่ามันมาก มันรู้สึกปลื้ม....และดีใจจนพูดไม่ถูก”
ภัยพิบัติไร้ความปรานี ทว่า นำมาซึ่งน้ำใจจากผู้คน มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยหวังว่าทุกคนจะปลอดภัย ฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่สู่สภาวะปกติได้ในเร็ววัน ขอให้สภาพจิตใจของทุกคนดีขึ้นเรื่อย ๆ ความทุกข์เศร้าจางหายมลายไป ลุกขึ้นต่อสู้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
▲ช่วยกันขนสิ่งของส่งของกันไป ร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ ทำความดีจะขาดฉันแม้แต่คนเดียวไม่ได้
▲ภาษามือประกอบเพลง “โลกนี้มีความรัก” แสดงถึงความรักและความห่วงใยที่อาสาสมัครฉือจี้มีต่อผู้ประสบภัย
▲ขออธิษฐานให้โลกนี้ปราศจากภัยพิบัติ
▲อาสาสมัครมอบเงินช่วยเหลือและสิ่งของให้ผู้ประสบภัย
▲เมื่อได้รับเงินช่วยเหลือและสิ่งของบรรเทาภัยแล้ว รอยยิ้มก็ปรากฎบนใบหน้าของชาวบ้าน
เรื่อง คุณดรรชนี สุระเทพ ภาพ คุณพิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี