ค้นหาข่าว

ปรุงอาหารร้อน บริการอาหารเที่ยงให้ผู้ลี้ภัยครั้งแรก

20170326-099-bykamjira resize

1
ครั้งแรกกับการบริการอาหารเที่ยงให้พี่น้องผู้ลี้ภัยในกิจกรรมรักษาพยาบาล

 

กิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี ที่ทางฉือจี้ในเมืองไทยจัดเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้งนั้น มักจะมีผู้มารับบริการตรวจรักษาหลายร้อยคน ที่ผ่านมา มีการบริการแซนวิซให้ผู้ป่วยในระหว่างที่รอรับการตรวจรักษามาโดยตลอด ครั้งนี้เป็นวันที่พิเศษ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่มีการปรุงอาหารร้อน บริการอาหารเที่ยงให้ผู้ลี้ภัย เพิ่มการให้บริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น หัวหน้าผู้ดูแลล่ามแปลภาษา คุณกวอเหมยจวิน แบ่งปันว่า “มูลเหตุของการบริการอาหารเที่ยงให้ผู้ลี้ภัยก็คือ เราก็อยากจะบริการอาหารอันอบอุ่นสัก 1 มื้อ ให้ผู้ลี้ภัยได้รับประทานระหว่างที่รอการตรวจรักษาพยาบาลในต่างถิ่นฐานบ้านเกิดเช่นนี้”

เน้นรสชาติอาหารในถิ่นบ้านเกิดของผู้ลี้ภัยเป็นหลัก ดังนั้น จึงได้ตั้งกลุ่มทำอาหารเที่ยงขึ้นมา มีสมาชิกกลุ่ม 8 คน แต่ละคนล้วนมากจากหลากหลายประเทศ เช่น ปากีสถาน โซมาเลีย ปาเลสไตน์ เป็นต้น ซึ่งสมาชิกเหล่านี้จะพูดคุยปรึกษาเลือกเมนูอาหารเอง โดยก่อนวันกิจกรรมรักษาพยาบาล 1 วัน อาสาสมัครได้พาตัวแทนสมาชิกกลุ่มทำอาหาร ไปซื้อเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ ที่แม็คโครด้วยตนเอง เพื่อให้พวกเขารู้สึกถึงการได้มีส่วนร่วม

 20170326-49-bydatchanee resize

▲เน้นรสชาติอาหารในถิ่นบ้านเกิดของผู้ลี้ภัยเป็นหลัก ดังนั้น จึงได้ตั้งกลุ่มทำอาหารเที่ยงขึ้นมา ซึ่งแต่ละคนล้วนมากจากหลากหลายประเทศ

 

20170326-01-bydatchanee resize

 

▲พ่อครัว แม่ครัวเดินทางมาถึงตั้งแต่เช้า และเริ่มเตรียมอาหารมื้อเที่ยง

 

20170326-42-bydatchanee resize

▲เมื่อทราบว่ากิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีต้องการล่ามแปลภาษา ทั้งลูกชาย(ซ้าย2) ลูกสาว(ขวา 1) และลูกสะใภ้(ซ้าย1)

จึงสมัครเข้าร่วมเป็นล่ามแปลภาษาอย่างกระตือรือร้น ครั้งนี้คุณมูฮัมหมัด (ขวา 2) ก็ถือโอกาสอันดีมาเป็นพ่อครัวทำอาหาร เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปจุนเจือครอบครัว

 

 

2
ทำอาหารด้วยความปิติ พ่อครัวปรุงอาหารบ้านเกิดด้วยความสุข

วันดังกล่าวได้มีการจัดเตรียมอาหาร 2 เมนู ได้แก่ 1. ข้าวราดแกงสไตล์ปากีสถาน และสปาเก็ตตี้โซมาเลีย จำนวน 600 ชุด โดยกลุ่มทำอาหารเดินทางมาถึงตั้งแต่เช้า และเริ่มเตรียมอาหารมื้อเที่ยง

คุณมูฮัมหมัด หนึ่งในพ่อครัว เดิมทีเมื่อครั้งที่อยู่ปากีสถาน เคยทำธุรกิจร้านอาหารมานาน 20 กว่าปี เนื่องจากคุณอาเมร์ ผู้เป็นนลูกชายมาร่วมเป็นล่ามแปลภาษา ช่วยงานฝ่ายสื่อประชาสัมพันธ์ เมื่อทราบว่ากิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรีจะการบริการอาหารมื้อเที่ยงให้ผู้ลี้ภัย เขาจึงชวนพ่อมาร่วมเป็นพ่อครัวทำอาหาร

เนื่องจากความขัดแย้งด้านศาสนา ทำให้ครอบครัวของคุณมูฮัมหมัดจำเป็นต้องอพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองไทย ในระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยมาแล้ว 3-4 ปี พวกเขาไม่สามารถทำงานหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ชีวิตความเป็นอยู่จึงยากลำบากนัก ดังนั้น เมื่อพวกเขาทราบว่า กิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีต้องการล่ามแปลภาษา ทั้งลูกชาย ลูกสาวและลูกสะใภ้ จึงสมัครเข้าร่วมอย่างกระตือรือร้น เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และสำหรับการบริการอาหารเที่ยงครั้งแรกในกิจกรรมรักษาพยาบาลนี้ คุณมูฮัมหมัดก็ไม่พลาดโอกาสอันดี ตอบรับหน้าที่ทำอาหารด้วยความกระตือรือร้นเช่นกัน

และด้วยประสบการณ์การทำอาหารขายเป็นจำนวนมากเมื่อครั้งที่อยู่ปากีสถาน ดังนั้น เมื่อจะต้องเตรียมอาหารจำนวนมากบริการพี่น้องผู้ลี้ภัย จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ลำบากสำหรับคุณมูฮัมหมัดเลย แม้วัตถุดิบจะไม่ครบถ้วนอย่างที่คาดคิด ทว่า ด้วยประสบการณ์การทำธุรกิจร้านอาหารเป็นเวลานาน ทำให้เขาสามารถก้าวผ่านความท้าทายนี้ได้ คุณมูฮัมหมัดแบ่งปันว่า “วันนี้พวกเราก็ได้ทำข้าวราดแกงธัญพืชสไตล์ปากีสถาน ถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะไม่ครบเหมือนตอนที่อยู่ปากีสถาน แต่พวกเราก็ทำด้วยวิธีการเรียบง่าย ซึ่งความเรียบง่ายก็คือความอร่อย เพราะความจริงแล้วธัญพืชเหล่านี้เมื่อได้รวมกับวัตถุดิบอื่น ๆ ก็อร่อยมากเลยทีเดียวครับ”

นอกจากจะทำอาหารสำหรับบริการพี่น้องผู้ลี้ภัยแล้ว คุณมูฮัมหมัดยังได้ทำสลัดผักให้อาสาสมัครและล่ามแปลภาษาได้รับประทานเป็นพิเศษอีกด้วย

20170326-23-bydatchanee resize

▲นอกจากจะทำอาหารสำหรับบริการพี่น้องผู้ลี้ภัยแล้ว

คุณมูฮัมหมัด ยังได้ทำสลัดผักให้อาสาสมัครและล่ามแปลภาษาได้รับประทานเป็นพิเศษอีกด้วย

 

20170326-099-bykamjira resize

▲อาสาสมัครและล่ามแปลภาษาตักอาหารบริการผู้ลี้ภัย

 

20170326-35-bydatchanee resize

▲พี่น้องผู้ลี้ภัยจำต้องห่างบ้านเกิดเมืองนอน มาอาศัยในเมืองไทยเหล่านี้

ได้มารับประทานอาหารรสชาติสไตล์บ้านเกิดร่วมกัน ทุกหนแห่งล้วนเต็มไปด้วยความสุข

 

 

3
ส่งเสริมการรักษ์โลก ปลูกฝังสุขลักษณะที่ดีในชีวิตประจำวัน

ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว อาหารมื้อเที่ยงก็เตรียมเรียบร้อยแล้ว พื้นที่เต็นท์สีขาวด้านหลังซึ่งเดิมที่จัดไว้ให้บริการด้านทางการแพทย์ ก็ถูกเปลี่ยนเปลี่ยนโรงอาหารขนาดใหญ่เพียงพริบตา เพื่อที่สามารถส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปในขณะเดียวกัน อาสาสมัครจึงแจ้งให้ผู้ลี้ภัยเตรียมภาชนะบรรจุอาหารมาจากบ้าน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็นำภาชนะที่ใส่อาหารไปล้างด้วยตนเองที่จุดล้างภาชนะที่จัดเตรียมไว้ให้ ดังนั้น ในระหว่างที่รออาหารมื้อเที่ยง จะเห็นภาชนะใส่อาหารอันหลากหลายที่พวกเขาได้เตรียมมา

อาหารมื้อเที่ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว อาสาสมัครและล่ามแปลภาษาช่วยกันตักอาหารบริการผู้ลี้ภัย ซึ่งระหว่างที่บริการอาหารให้ผู้ลี้ภัยจะเห็นว่า อาหารได้แบ่งออกตามระดับความเผ็ด ทั้งไม่เผ็ด เผ็ดน้อย และเผ็ดมาก ทำให้คนทุกวัยไม่ว่า เด็ก วัยรุ่น หรือผู้สูงอายุล้วนสามารถรับประทานได้ และกิจกรรมบริการอาหารเที่ยงวันดังกล่าว ทำให้พี่น้องผู้ลี้ภัยไกลบ้านเหล่านี้ ได้มารับประทานอาหารรสชาติสไตล์บ้านเกิดร่วมกันอย่างมีความสุข

คุณฟารักห์ แบ่งปันความรู้สึกว่า “ฉันดีใจมากที่ได้มาที่นี่ ได้รับประทานอาหารปากีสถาน ทำให้ฉันได้นึกถึงกลิ่นไอของบ้านเกิด ขอขอบคุณในความตั้งใจของอาสาสมัครฉือจี้”

คุณมิชาล แบ่งปันความรู้สึกว่า “วันนี้อาหารอร่อยมาก ทำให้พวกเรารับประทานได้อย่างมีความสุข ขอบคุณพ่อครัว แม่ครัว ที่ช่วยทำอาหารให้เรา ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ครับ”

ผลตอบรับที่ดีเช่นนี้ เป็นกำลังใจที่ดีให้ผู้ลี้ภัยกลุ่มทำอาหาร คุณซูฮาล โจเซฟ หนึ่งในพ่อครัว แบ่งปันความรู้สึกว่า “พอทุกคนพูดว่าอาหารอร่อยมาก ก็ทำให้เราดีใจมากเช่นเดียวกัน” คุณซูฮาล โจเซฟ ยังได้แบ่งปันว่า แม้ครั้งนี้จะได้ผลตอบรับที่ดี แต่ในระหว่างการทำอาหาร ยังมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่ผู้ลี้ภัยกลุ่มอาหารก็จะนำบทเรียนที่ท้าทายนี้ไปปรับปรุง เพื่อทำให้การบริการอาหารมื้อเที่ยงครั้งต่อไปดียิ่ง ๆ ขึ้น

 

20170326-39-bydatchanee resize

▲ผู้ลี้ภัยนำภาชนะที่ใช้บรรจุอาหารมาล้างทำความสะอาด หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ

 

20170326-46-bydatchanee resize

▲หลังจากการบริการอาหารมื้อเที่ยงให้ผู้ลี้ภัยแล้ว กลุ่มทำอาหารก็ช่วยกันล้างและเก็บอุปกรณ์เครื่องครัว

 

 

 

 

 

 

 

 เรื่อง คุณดรรชนี สุระเทพ   ภาพ คุณพิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี คุณเขมจิรา สัตถาวงษ์ คุณดรรชนี สุระเทพ