ค้นหาข่าว

สงกรานต์ 2560 “ร่วมใจสร้างสรรค์ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ”

 

20170423-259-bylek resize

สงกรานต์ 2560 “ร่วมใจสร้างสรรค์ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ”

วันที่ 13 เมษายนของทุกปี เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเราเรียกกันว่า “วันสงกรานต์” หรือวันครอบครัว คนไทยเราไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จังหวัดใดต้องกลับสู่ภูมิลำเนาของแต่ละคน เพื่อไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ รวมทั้งพระสงฆ์ ตามวัดต่างๆ ซึ่งมีกิจกรรมแต่ละท้องถิ่นของภาคนั้นๆ เป็นการขอขมากรรมและขอพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่ตนเองเคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง

 

20170423-219-bylek resize

▲หมู่บ้านหรรษาจัดกิจกรรม “ร่วมใจสร้างสรรค์ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ” อาสาสมัครฉือจี้ก็ได้รับเชิญมาร่วมต้อนรับปีใหม่ไทยด้วยความปีติยินดี

 

เนื่องในวันสงกรานต์ปีนี้ พวกเราชาวชุมชนหมู่บ้านหรรษา โดยมีชุมชนหรรษาสร้างสรรค์และชุมชนหรรษาร่วมใจ พร้อมทั้งอาสาสมัครฉือจี้ ร่วมมือร่วมใจจัดงานวันสงกรานต์ขึ้น เริ่มต้นด้วยการจัดแบ่งหน้าที่ร้อยมาลัย จัดเตรียมสถานที่ จัดเตรียมอาหาร จัดสถานที่ลงทะเบียน รวมไปถึงการซักซ้อมกำหนดการต่างๆเพื่อมิให้ขาดตกบกพร่อง

 

 

 

 

20170423-221-bylek resize

▲อาสาสมัครฉือจี้ร่วมรำวงกับชาวหมู่บ้านหรรษาเนื่องในวันสงกรานต์ด้วยความสนุกสนาน

 

เมื่อแดดร่มลมตก ใกล้ถึงเวลาที่นัดหมาย เวลา 16.00 น. ผู้สูงอายุต่างทยอยเดินทางมายังสถานที่จัดกิจกรรม ผู้สูงอายุหลายท่านลูกหลานต่างจับแขนจูงมือมาร่วมกิจกรรม บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น อบอุ่น ลูกหลานพาคุณตาคุณยายมายังจุดลงเบียนเพื่อรับพวงมาลัยคล้องคอ พร้อมกับรับริบบิ้นโบว์ติดที่หน้าอกเสื้อ 

หลังจากที่ผู้สูงอายุทยอยลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลูกหลาน ญาติพี่น้องต่างเดินทางมาถึงสถานที่จัดกิจกรรม จากนั้นอาจารย์ ดร.วินัย เอี่ยมอารมณ์ กล่าวเปิดงานและได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์ โดยท่านยังได้ทำพิธีสวดอัญเชิญเทวดา เพื่อเป็นการสวดมนต์ให้พรแก่ผู้สูงอายุ และผู้มาร่วมกิจกรรม หลังจากนั้นผู้นำท้องถิ่นหลายท่านด้วยกันให้เกียรติเดินทางมาพบปะชาวบ้านและใช้โอกาสนี้กล่าวคำอวยพร ร่วมสรงน้ำพระพุทธ และร่วมรดน้ำอวยพรผู้สูงอายุ ท่ามกลางบรรยากาศของเสียงเพลงที่ขับกล่อมอย่างไพเราะ ทำให้เกิดภาพความรัก ความอบอุ่น สื่อถึงความรักความกตัญญูที่ทุกคนมีให้กันและกัน

 

20170423-253-bylek resize

▲อาสาสมัครฉือจี้ คุณทัศวรรณ แก้วสว่าง ร่วมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ

 

ตัวแทนจากมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย นำโดยคุณเวินอิง และอาสาสมัครจิตอาสาเขตพุทธมณฑล ร่วมรดน้ำอวยพรแก่ผู้สูงอายุ พร้อมทั้งนำของขวัญซึ่งทางมูลนิธิได้จัดเตรียมมา ได้แก่ ผ้าถุง ผ้าขาวม้า ผ้าขนหนู มอบให้ผู้สูงอายุทุกท่าน

 คุณยายธารทิพย์ อายุ 70 ปี แบ่งปันความรู้สึกว่า “ยายรู้สึกปลื้มใจมาก ที่ทุกคนไม่ลืมผู้สูงอายุ ขอให้ทุกคนที่มาร่วมงาน มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้เจริญรุ่งเรือง และมีหน้าที่การงานที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป”

 

20170423-285-bylek resize

▲อาสาสมัครฉือจี้ คุณเวินอิง เป็นตัวแทนมอบของที่ลึกให้กับผู้สูงอายุ

 

คุณกุศลิน เล็กคำ แบ่งปันว่า “มูลนิธิฉือจี้ได้นำสิ่งของต่างๆมามอบให้กับผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งกิจกรรมนี้เราจัดมาเป็นปีที่ 2 แล้ว ได้รับการตอบรับจากผู้สูงอายุเป็นอย่างดี ต้องขอขอบพระคุณมูลนิธิพุทธฉือจี้ ที่นำสิ่งของมามอบให้ผู้สูงอายุ และก็ตั้งแต่น้ำท่วมเมื่อ พ.ศ.2554 ชาวชุมชนหมู่บ้านหรรษา ก็ได้รับการให้ความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิฯเสมอมา ต้องขอขอบพระคุณทางมูลนิธิฯเป็นอย่างสูง”

นอกจากการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์แล้ว อาสาสมัครฉือจี้ได้นำคำสอนของท่านธรรมาจารย์มาสอดแทรกในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตกแต่งสถานที่ ซึ่งใช้วัสดุจากธรรมชาติ เพื่อเป็นการประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม

อาสาสมัครฉือจี้ คุณพีระพัฒน์ เครือใจ แบ่งปันว่า “ในการจัดกิจกรรมเนื่องในประเพณีวันสงกรานต์ ซึ่งชาวหมู่บ้านหรรษาได้ร่วมกันจัดงานขึ้นทุกปี แต่ในปีนี้เราได้นำสิ่งต่างๆ ที่เรียนรู้มาจากฉือจี้ นั่นคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เราได้เริ่มปรับเปลี่ยนในชุมชนของเรา จากการใช้ถ้วยโฟม ถ้วยพลาสติก เราเปลี่ยนเป็นถ้วยเซรามิก เปลี่ยนเป็นชามกระเบื้องแทน เพื่อเมื่อใช้แล้ว สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้อีก อีกอย่างเป็นการรักษาสุขภาพ เพราะว่าหากเราใช้โฟมใส่อาหาร สารพิษจากโฟมที่ละลายออกมา อาจจะปนเปื้อนในอาหารเมื่อโดนความร้อน แล้วเข้าสู่ร่างกายเรา ก่อให้เกิดพิษในร่างกายเรา หากร่างกายสะสมมากเข้า อาจก่อสารมะเร็งในอนาคตได้ และอีกอย่างในการย่อยสลายโฟมนั้น มันต้องใช้เวลานานมาก กว่าพันปี ดังนั้นหากเราจะรักษาสิ่งแวดล้อม เราต้องงดใช้โฟม นอกจากนี้ น้ำที่เหลือจากการล้างจาน ก็สามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ได้ เป็นต้น นี่ก็เป็นการรณรงค์ให้ชาวบ้าน ได้รับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยครับ”

 

20170423-305-bylek resize

▲หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนต่างก็นำภาชนะรับประทานอาหารของตนเองไปล้างโดยอัตโนมัติ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นความยากลำบาก เพราะทุกคนตระหนักดีว่าการถนอมทรัพยากรธรรมชาติเป็นหน้าที่ของเราทุกคน

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนต่างก็นำภาชนะรับประทานอาหารของตนเองไปล้างโดยอัตโนมัติ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นความยากลำบาก เพราะทุกคนตระหนักดีว่าการถนอมทรัพยากรธรรมชาติเป็นหน้าที่ของเราทุกคน

 


เรื่อง  ภารดี มะกรูดอินทร์ , ทัศวรรณ แก้วสว่าง         ภาพ  พิณญ์ธิชา  จันทร์สุขศรี