ค้นหาข่าว

กิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนวัดไผ่ตัน

20170514-105-bylek resize

  

นำความรักเคียงข้างผู้ประสบภัย ดับเพลิงพิโรธเทพแห่งไฟ

 

ภัยพิบัติทั่วโลกเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่นในวันจัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนวัดไผ่ตันเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ก็มีข่าวไฟไหม้ตึก 24 ชั้นในลอนดอน ปรากฏบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ มีรายงานในเบื้องต้นว่า เพลิงเผาไหม้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทำมีผู้เสียชีวิต 6 คน ผู้คนหนีตาย 600 กว่าคน ภัยพิบัติอันทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญผวาเหล่านี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของชีวิต
สำหรับเหตุไฟไหม้ที่ชุมชนวัดไผ่ตัน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงผิวหนังถลอกเพียงเล็กน้อย แต่ภาพบ้านเรือนถูกไฟเผาวอดเช่นนี้ ก็ทำให้ผู้ประสบภัยต่างก็เศร้าเสียใจร่ำไห้
จุดประกายเมตตาจิต ก่อเกิดมหาปณิธาน

 

 

20170514-007-bylek resize

▲ อาสาสมัครฉือจี้แจกแผ่นพับแนะนำมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยให้ผู้ประสบภัย เพื่อให้พวกเขาเข้าใจประวัติความเป็นมาขององค์กร


เมื่อทุกหนแห่งมีความปลลอดภัย ผู้คนก็จะสามารถอาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้อย่างสงบสุข ไม่ว่าจะยากดีมีจน ทุกชีวิตล้วนมีความเท่าเทียมกัน ขอให้ทุกคนจุดประกายเมตตาจิตในตนเอง เดินบนมหาปณิธานที่ตั้งไว้ เพื่อปกป้องสรรพชีวิตและความรักให้คงอยู่
เมื่อทราบข่าวไฟไหม้ครั้งนี้แล้ว ช่วงเช้าชองวันที่ 11 มิถุนายน 2560 หลังจากกิจกรรมจำหน่ายสินค้ามือสองเพื่อการกุศล ที่ศูนย์เรียนรู้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฉือจี้เขตคลองเตยสิ้นสุดลงแล้ว อาสาสมัครฉือจี้ได้ประชุมพูดคุย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีมติในที่ประชุมว่า จะให้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบครัวละ 4,000 บาท
สาส์นจากท่านธรรมาจารย์เปี่ยมด้วยเมตตา ปลอบโยนผู้ประสบภัย

 

 

20170514-027-bylek resize

▲ คุณสมชาย อภิรักษ์ฤานนท์ แนะนำความเป็นมาของกระปุกออมบุญฉือจี้ และเชิญชวนผู้ประสบภัยบริจาคน้ำใจ ส่งต่อความรักให้ผู้อื่นต่อไป


หลังจากคุณจิราพร ประธานชุมชนกล่าวเปิดกิจกรรมแล้ว คุณสมชาย อนุรักษ์ฤานนท์ เป็นตัวแทนอาสาสมัครฉือจี้ อ่านสาส์นแสดงความเสียใจจากท่านธรรมาจารย์ ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ประสบภัย เป็นช่างไฟฟ้าแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ และพักอาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว เมื่อบ้านเรือนที่เช่าพักอาศัยอยู่ถูกไฟไหม้ พวกเขาจึงต้องไปเช่าห้องเช่าใหม่ บางส่วนก็ไปขออาศัยชั่วคราวที่บ้านญาติหรือบ้านเพื่อน ถึงแม้ว่าบ้านเรือนจะถูกไฟเผาวอดไปแล้ว แต่ผู้ประสบภัยก็ยังรู้สึกว่าโชคดีที่ตนยังมีชีวิตรอดและยังปลอดภัยดี
“ครอบครัวเดียวกัน”คงอยู่ตลอดไป


ในระหว่างกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยนั้น อาสาสมัครยังได้แบ่งปันเรื่องราวความเป็นมาของกระปุกออมบุญ ดังนั้น เมื่ออาสาสมัครถือกระปุกออมบุญเรี่ยไรน้ำใจ ผู้ประสบภัยล้วนยินดีร่วมบริจาคน้ำใจตนกับอาสาสมัคร หนึ่งในนั้นคือ คุณวินัย เนื่องจากซาบซึ้งใจที่มูลนิธิยื่นมือช่วยเหลือ เขาจึงร่วมบริจาคน้ำใจตน เมื่ออาสาสมัครฉือจี้ คุณจางอิงหม่านเปิดดูเงินบริจาคที่คุณวินัยให้มา พบว่ามีธนบัตรใบละหนึ่งร้อยจำนวน 4 ใบ คุณวินัยแบ่งปันว่า “วันนี้ทางมูลนิธิเขามาช่วยเหลือเราทุกอย่าง เราก็ซาบซึ้งมากครับ ” คุณวินัยยังแบ่งปันอีกว่า หวังว่าต่อจากนี้จะมีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น

 

20170614-028-bylukueilan resize

▲ ผู้ประสบภัยนำเงินให้ลูกน้อยร่วมยอดเงินลงในกระปุกออมบุญฉือจี้ ปลุกฝังให้เด็กน้อยให้รู้จักทำบุญตั้งแต่ยังเด็ก

 

เดิมที คุณวินัยทำงานอยู่ในละแวกชุมชนวัดไผ่ตันมา 26 ปีแล้ว และย้ายมาอาศัยอยู่ในชุมชนวัดไผ่ตัน 2 ปี ครอบครัวของเขาประกอบไปด้วย ภรรยา ลูกสาววัย 9 ขวบ และลูกชายวัย 3 ขวบ การงานค่อนข้างมั่นคง แม้จะพบเจอกับเรื่องร้ายในวันนี้ แต่เขาก็ยังขอบคุณในโชควาสนา ที่ทำให้เขาและครอบครัวปลอดภัยจากเหตุร้าย


หนึ่งในผู้ประสบภัย คุณเฮลียง วิน ซู เป็นแรงงานชาวพม่า เขาและภรรยามาทำงานอยู่ในเมืองไทยแล้ว 11 ปี เนื่องจากภรรยาตั้งครรภ์ เขาจึงตั้งใจทำงานเก็บเงินในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และนำเงินเก็บไว้ในห้องพัก เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เงินที่เขาตั้งใจเก็บหอมรอบริบให้ภรรยาใช้จ่ายในการคลอดลูก และทรัพย์สินต่างๆถูกเผาวอดไปกับกองเพลิง ทว่าในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ภรรยาได้คลอดลูก ซึ่งปลอดภัยแข็งแรงทั้งแม่และลูก และหลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ก็ยังมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลืออย่างไม่ขาดสาย ทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เมื่ออาสาสมัครถามว่า “รู้สึกอย่างไรที่วันนี้มีมูลนิธิพุทธฉือจี้มาให้กำลังใจ คุณเฮลียง วิน ซู ก็ตอบด้วยความปีติว่า “รู้สึกดีใจครับ ขอบคุณทุกคน ทุกท่านมากๆครับ”

 

20170514-072-bylek resize

▲อาสาสมัครฉือจี้แสดงภาษามือประกอบเพลง “ครอบครัวเดียวกัน” ให้กำลังใจผู้ประสบภัยสู้ชีวิตต่อไป


และยังมีแรงงานชาวพม่า คุณซู ซิน โย และคุณที รือ ทุน เธอทั้งสองก็รู้สึกซาบซึ้งใจฉือจี้ ยินดีบริจาคน้ำใจตนเช่นเดียวกัน และยังมีผู้ประสบภัยบางคน นำเงินให้ลูกน้อยร่วมยอดเงินลงในกระปุกออมบุญฉือจี้ ปลุกฝังให้เด็กน้อยให้รู้จักทำบุญตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งภาพเหล่านี้ ล้วนเป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก
ในช่วงท้ายกิจกรรม อาสาสมัครได้นำผู้ประสบภัยแสดงภาษามือ “ครอบครัวเดียวกัน” ทุกคนร่วมเปล่งเสียงร้องเพลงร่วมกันอย่างตั้งใจ เมื่อเพลงจบลงแล้ว พวกเขายังขอให้อาสาสมัครแสดงภาษามืออีกหนึ่งรอบ โดยเฉพาะผู้ประสบภัยชาวเมียนมาร์ ผู้ซึ่งมีความจริงใจใสซื่อ ดั่งน้ำใสบริสุทธิ์ สามารถเปลี่ยนเปลวไฟให้กลายเป็นกระแสน้ำบริสุทธ์ ชโลมจิตใจตนและผู้อื่นได้ คุณที รือ ทุน แบ่งปันความรู้สึกว่า “ตอนที่อาสาสมัครแสดงภาษามือประกอบเพลง “ครอบครัวเดียวกัน” คือหนูซาบซึ้งใจจนพูดไม่ถูกเลย ร้องเพลงไปก็ร้องไห้ไป และคิดถึงพ่อกับแม่ด้วย”

 

20170614-018-bylukueilan resize

▲ เพราะซาบซึ้งในน้ำใจที่อาสาสมัครฉือจี้มาช่วยเหลือ คุณวินัยจึงยินดีเป็นผู้ให้ ร่วมบริจาคน้ำใจตน

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนใช้โอกาสวันดีในทุกๆวัน เขียนเรื่องราวชีวิตของตนเอง ก่อเกิดปัญญาอันจะคงอยู่นิจนิรันดร์ เสียงนกร้องอยู่นอกวัด คล้ายกับพวกมันกำลังขอบคุณและอวยพรให้ทุกคนปลอดภัย อาสาสมัครฉือจี้ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทุ่มเทเสียสละ ขออธิษฐานให้โลกนี้ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง

 

เพิ่มเติม-- อาสาสมัครลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ประสบภัย
อาสาสมัครฉือจี้ นำพนักงานฝ่ายสื่อฯลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ประสบภัย บนทางเดินเข้าสู่ชุมชนคับแคบตลอดทาง บ้านเรือนในชุมชนแห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้และปลูกติดกันอย่างแออัด ภายใต้แสงแดดจ้า ยังเห็นว่ามีต้นไม้กิ่งก้านเหี่ยวแห้ง ซึ่งดูคล้ายเหมือนว่ามันยังไม่หักโค่นลง เมื่อกลับมายังบริเวณวัดไผ่ตัน ก็พบว่าคุณครูกำลังสอนนักเรียนเล่นตะกร้ออยู่ และยังพบว่ามีพระสงฆ์ได้มาสังเกตุกิจกรรมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งยังชื่นชมการจัดกิจกรรมของอาสาสมัครว่า หลังจากกิจกรรมสิ้นสุดลงแล้ว อาสาสมัครก็ช่วยกันทำให้สถานที่ก็กลับมาสะอาดดังเดิม

 

20170514-129-bylek resize

 ▲ ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ภรรยาคุณเฮลียง วิน ซูได้คลอดลูก ซึ่งปลอดภัยแข็งแรงทั้งแม่และลูก

 


เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ     ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี