แพทย์ตรวจรักษาด้วยความใส่ใจ ผู้ป่วยร่วมเป็นจิตอาสาด้วยใจผู้ให้
แพทย์ตรวจรักษาด้วยความใส่ใจ ขจัดความทุกข์ให้ผู้เจ็บป่วย
แม้จะเข้าสู่ช่วงเวลาของฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าสภาพอากาศของกรุงเทพฯในช่วงนี้มักจะเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยอาจมีสภาพอากาศครบ 3 ฤดู ทั้งหนาว ร้อน หรือฝนตกในวันเดียวกัน ซึ่งสภาพอากาศแปรปรวนเช่นนี้ ทำให้ผู้คนเจ็บป่วยได้ง่ายยิ่งนัก
ผศ.นพ.กำธร ตันติวิทยาทันต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ที่มาร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีหลายๆครั้งในปีนี้ จึงเข้าใจถึงสภาพทั่วไปของผู้ป่วยที่มารับบริการพอสมควร โดยผศ.นพ.กำธร แบ่งปันสภาพผู้ป่วยที่มารับบริการรักษาในวันนี้ว่า ผู้ป่วยมี 2 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่มผู้ป่วยเด็ก ที่มีอาการเป็นหวัด มีไข้ ตัวร้อน น้ำมูกไหล ต่อมทอนซิลอักเสบ จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และ 2.กลุ่มผู้ป่วยวัยกลางคน มีอาการป่วยเมื่อยตามร่างกายและข้อต่างๆจากการทำงานหนัก เป็นต้น
▲ในระหว่างการรักษา ผศ.นพ.กำธร ยังเน้นย้ำให้ผู้ป่วยดูแลสุขภาพตนเองและสมาชิกครอบครัวในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ด้วยตระหนักดีว่าการมีสุขภาพดีเป็นเรื่องที่สำคัญ ฉะนั้น ในระหว่างการรักษา ผศ.นพ.กำธร จึงไม่เพียงตรวจรักษาโรคของร่างกาย หากยังพูดคุยสอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ป่วยด้วยความใส่ใจ อีกทั้งยังเน้นย้ำให้ผู้ป่วยดูแลสุขอนามัย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมน้ำหนักของตนเองและสมาชิกครอบครัวในชีวิตประจำวัน ผศ.นพ.กำธร แบ่งปันความรู้สึกจากการร่วมกิจกรรมว่า “ในกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีที่ทางมูลนิธิพุทธฉือจี้ได้ให้โอกาสผู้คนเหล่านี้มีโอกาสได้รับบริการด้านการแพทย์ แล้วตัวผมเองได้มาร่วมตรวจรักษา ไม่ว่าจะช่วยได้มากหรือน้อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาได้เข้าถึงการดูแลสุขภาพ ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ”
เมื่อทราบว่ากิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีต้องการแพทย์มาช่วยตรวจรักษาผู้ป่วย นพ.ปุณวิศ สุทธิกุลณเศรษฐ แพทย์จากสถาบันโรคผิวหนัง ก็ตอบรับมาร่วมกิจกรรมด้วยความยินดี แม้อุปกรณ์ทางการแพทย์จะไม่ครบครันอย่างเช่นในโรงพยาบาล ทว่า นพ.ปุณวิศ ยังคงทุ่มแรงกายแรงใจตรวจรักษาผู้ป่วย เพราะเล็งเห็นว่า “กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมการกุศล ซึ่งเป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อมนุษยชาติ ” นพ.ปุณวิศ แบ่งปันความรู้สึก
ผู้ป่วยร่วมเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจผู้ให้
ภายใต้การทุ่มเทแรงกายแรงใจของบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครฉือจี้นั้น ยังมีผู้มารับบริการตรวจรักษาชาวปาเลสไตน์ชื่อ คุณอับดัลคาริม เขาและสมาชิกครอบครัว ได้แก่ ภรรยา พร้อมด้วยลูกหลานอีก 4 คน รวมสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 6 คน อาศัยอยู่ในเมืองไทยเป็นระยะเวลา 4 ปีครึ่งแล้ว แม้ว่าชีวิตความเป็นอยู่มีความลำบากมากมาย แต่ก็ยังโชคดีที่มีหน่วยงานการกุศลต่างๆให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ลดภาระในครอบครัวได้บ้าง อีกทั้งมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยยังจัดกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้บริการด้านการแพทย์ ช่วยบำบัดทุกข์จากความเจ็บป่วยแก่พวกเขา
▲เมื่อทราบว่ากิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีต้องการแพทย์มาช่วยตรวจรักษาผู้ป่วย นพ.ปุณวิศ สุทธิกุลณเศรษฐ แพทย์จากสถาบันโรคผิวหนัง ก็ตอบรับมาร่วมกิจกรรมโดยไม่ลังเลใจ ทุ่มแรงกายแรงใจตรวจรักษาผู้ป่วย
กิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีที่จัดขึ้นทุกครั้งพบว่า คุณอับดัลคาริม จะเดินทางมาถึงสถานที่ตั้งแต่ 6 โมงเช้า เมื่อได้รับบัตรคิวแล้ว คุณอับดัลคาริมยังช่วยแจกบัตรคิวให้ผู้มารับบริการรักษาคนอื่นๆด้วยความตั้งใจมาโดยตลอดเรื่อยมา คุณอับดัลคาริม แบ่งปันความรู้สึกในการทำงานจิตอาสาว่า “การช่วยเหลืองานของมูลนิธิพุทธฉือจี้ ก็เหมือนได้ช่วยเหลือตนเอง การมาที่นี่ทำให้ผมทำงานจิตอาสา และผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานจิตอาสาครับ”
คุณอับดัลคาริมยังเล่าอีกว่า เขาและครอบครัวจะเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ในวันที่ 17 มกราคม 2561 คุณอับดัลคาริมยังทิ้งท้ายว่า หลังจากไปอาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์แล้ว เขาก็ยินดีร่วมเป็นอาสาสมัครฉือจี้ เพื่อทำงานช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
เรื่อง บุษรา สมบัติ , จรรยพร เข้มแข็ง 
ภาพ ดรรชนี สุระเทพ
