“ข้าวสารที่บ้านกำลังจะหมดพอดี ถุงยังชีพนี้ช่วยทำให้ประหยัดเงินที่เหลือติดตัวอยู่เพียงน้อยนิดได้เป็นอย่างดี” การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกเป็นวงกว้าง รวมถึงผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก ดังนั้น ด้วยความเมตตาของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน และความห่วงใยของจิตอาสาฉือจี้ ที่มีต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาในสังคม จึงได้เริ่มดำเนิน “โครงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโรคโควิด-19” เพื่อมอบถุงยังชีพมากกว่า 56,000 ชุด ช่วยเหลือต่อเนื่องนานสามเดือน
หลังจากจิตอาสาร่วมแรงร่วมใจกันบรรจุถุงยังชีพแล้วเสร็จ จึงรีบดำเนินการลำเลียงขนส่ง เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิดโดยเร็วที่สุด โดยการบริจาครอบแรก จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2563 ณ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งสิ่งของในถุงยังชีพฉือจี้ ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำตาล เกลือ ขนมข้าวอบกรอบ และน้ำผักผลไม้ เป็นต้น ซึ่งช่วยให้ครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน สามารถยังชีพได้นานกว่าสองสัปดาห์
โดยการมอบถุงยังชีพครั้งนี้ ฉือจี้ได้รับความอนุเคราะห์จากอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และกรรมการชุมชนพื้นที่ต่างๆ เป็นสื่อกลางส่งมอบรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ฉือจี้ยังดำเนินโครงการ “มอบเงินช่วยเหลือด้วยการทำงาน” ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบช่วยทำงานขนส่งสิ่งของ ฉือจี้ยังเชิญชวนจิตอาสาในพื้นที่ มาร่วมกันเสียสละ ช่วยจัดเตรียมสถานที่และถุงยังชีพ ให้ทุกคนได้มีโอกาสแบ่งปันน้ำใจ ส่งมอบความห่วงใยแก่กัน
เมื่อชาวบ้านได้รับแจ้งให้มารับถุงยังชีพ ทุกคนต่างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ทั้งการเว้นระยะห่างและการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย บางคนยังพาลูกหลานมารับ “ถุงยังชีพ” กลับบ้านด้วยความดีใจ ชาวบ้านกล่าวว่า “ข้าวสารที่บ้านกำลังจะหมดพอดี ถุงยังชีพนี้ช่วยทำให้ประหยัดเงินที่เหลือติดตัวอยู่เพียงน้อยนิดได้เป็นอย่างดี”
จิตอาสาที่มาช่วยงานทุกคนต่างเสียสละด้วยความยินดี แม้เมษายนจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด ถุงยังชีพของฉือจี้ก็แสนจะหนัก จนเสื้อผ้าทุกคนล้วนชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่สำหรับเราแล้ว ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอย่างเต็มกำลังความสามารถของตน
ฉือจี้จะส่งมอบถุงยังชีพ ถึงมือผู้ที่เดือดร้อนเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องนานสามเดือน โดยกรรมการชุมชนกล่าวว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกบ้านสามารถก้าวข้ามช่วงวิกฤตนี้ไปได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณตาผวนวัย 91 ปี ซึ่งมีลูกสาวทำงานบริเวณท่าเรือคลองเตย แต่ต้องขาดรายได้ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อได้รับถุงยังชีพฉือจี้ในครั้งนี้ จึงช่วยคลายความวิตกเรื่องปากท้องในปัจจุบันและอีกสองเดือนที่เหลือข้างหน้า นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบบางคน ยังบอกเล่าถึงความตื้นตันใจที่ได้รับจากผู้คนในสังคม ตลอดระยะเวลาที่ต้องเผชิญกับวิกฤตว่า เป็นกำลังใจสำคัญให้ตนเองยืนหยัดสู้ต่อ เพื่อรอวันที่จะสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน
ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของจิตอาสาฉือจี้ อพม. กรรมการชุมชนและผู้คนในพื้นที่ ทำให้การมอบถุงยังชีพในแต่ละครั้งสำเร็จลุล่วงลงด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ เขตหนองจอก เขตคลองเตย เขตหนองแขม เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตสะพานสูง เขตมีนบุรี เขตลาดกระบัง เขตวัฒนา เขตคลองสามวา เขตบางนา เขตบางกะปิ เขตห้วยขวาง เขตพระโขนง กรุงเทพมหานครและอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2563 ได้ดำเนินการมอบถุงยังชีพช่วยเหลือไปแล้วมากกว่า 56,000 ชุด
หวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความยากลำบากของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันได้ในเร็ววัน ฉือจี้ขอขอบพระคุณการบริจาคสนับสนุนของผู้มีจิตศรัทธาในสังคมไทย รวมถึงการเสียสละของจิตอาสาทุกท่านเป็นอย่างสูง ในวิกฤตครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นถึงน้ำใจจากทุกภาคส่วนของสังคม
เรื่อง บุษรา สมบัติ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี ดรรชนี สุระเทพ