สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ไม่เพียงส่งผลกระทบกับสุขภาพของผู้คนทั่วโลกจำนวนมาก แต่ยังกระทบกับเศรษฐกิจ และทำให้ผู้คนไม่น้อยต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องตกงานเนื่องจากบริษัทปิดกิจการ หรือคนที่มีรายได้ลดลงอย่างกะทันหัน ในยามนี้ทุกคนจึงพยายามขวนขวายหาหนทางลดค่าใช้จ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตความหิวโหย
โครงการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระยะที่1 ของมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 23 เมษายน จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2563 โดยดำเนินการจัดกิจกรรมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่, อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี, อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี, ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ, อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และ 16 เขตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบไปด้วย เขตประเวศ เขตสวนหลวง เขตบางนา เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสะพานสูง เขตมีนบุรี เขตลาดกระบัง เขตคลองสามวา เขตหนองจอก เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา เขตพระโขนง เขตคลองเตย เขตปทุมวัน และเขตหนองแขม ภายในระยะเวลา 71 วัน รวม 117 รอบ ได้มอบถุงยังชีพไปทั้งสิ้น 54,840 ชุด
ตารางสรุปจำนวนการมอบถุงยังชีพฉือจี้(ต่อเนื่อง 3 ครั้ง) ระยะที่ 1
นอกจากจะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากให้กับประชาชนทั่วไปที่เดือดร้อนแล้ว มูลนิธิพุทธฉือจี้ยังได้จัดกิจกรรมมอบถุงยังชีพรอบพิเศษขึ้น เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานอยู่เบื้องหลังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างไม่ย่อท้อ จนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ค่อนข้างวิกฤตมาได้
ในการมอบถุงยังชีพรอบพิเศษ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตระดมกำลังขนย้ายสิ่งของในถุงยังชีพ เพื่อนำไปมอบช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ทุ่มเททำงานเหน็ดเหนื่อยในช่วงวิกฤติโควิด-19
จิตอาสาส่งมอบความห่วงใยจากท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนและบอกเล่าเรื่องราวฉือจี้
พิธีมอบถุงยังชีพฉือจี้ ทุกคนร่วมแสดงภาษามือประกอบเพลงครอบครัวเดียวกัน เพื่อเสริมสร้างกำลังใจซึ่งกันและกัน
ร่วมด้วยช่วยกัน ผ่านพ้นวิกฤต
คนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งมีความเป็นอยู่อัตคัดขัดสนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมาเจอวิกฤติครั้งนี้ ยิ่งตกทุกข์ได้ยาก ไม่รู้ว่าวันต่อไปจะมีข้าวกินหรือไม่ ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจากฉือจี้ ผ่านถุงยังชีพน้ำหนักเกือบ 20 กิโลกรัม ประกอบด้วย ข้าวสาร น้ำตาล น้ำมัน เกลือ ขนมข้าวอบกรอบ น้ำผักผลไม้และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่เพียงช่วยทำให้พวกเขาอิ่มท้อง แต่ยังมอบแรงใจให้ทุกคนได้อุ่นใจว่า มิได้กำลังเผชิญปัญหาอยู่เพียงลำพัง หลังจากได้รับสิ่งของ ทำให้รอยยิ้มแห่งความสุขแต่งแต้มลงบนใบหน้าที่เคยเศร้าหมอง
จิตอาสาบริการสแกนคูปองรับถุงยังชีพ จากผู้มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือ
จิตอาสาฉือจี้มอบสิ่งของช่วยเหลือผ่านถุงยังชีพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่เดือดร้อน
จิตอาสาฉือจี้มอบสิ่งของช่วยเหลือผ่านถุงยังชีพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่เดือดร้อน
ประชาชนรับมอบถุงยังชีพจากจิตอาสาฉือจี้ด้วยความสุข
ถุงยังชีพฉือจี้ประกอบไปด้วยข้าวสาร ครอบครัวละ 10 กิโลกรัม
ถุงยังชีพฉือจี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนยืนหยัดสู้วิกฤติครั้งนี้
ชาวฉือจี้ยินหยัดเคียงข้าง เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากในช่วงวิกฤต
"บุญต่อบุญ" จิตอาสาฉือจี้เชิญชวนผู้รับถุงยังชีพ ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา สร้างวัฏจักรแห่งความรักและความดี
ประชาชนรับถุงยังชีพฉือจี้กลับไปด้วยความสุข
ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ภิกษุณีผู้ก่อตั้งมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน ปรารถว่า “ที่ใดมีความทุกข์ ที่นั่นย่อมมีพระโพธิสัตว์จุติขึ้น” การมอบถุงยังชีพจำนวนมาก ในระยะเวลายาวนานต่อเนื่องนานกว่า 4-5 เดือน หากขาดซึ่งกำลังจิตอาสา ผู้มีจิตศรัทธาในสังคม อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ย่อมยากที่จะดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงไปได้ จากโครงการนี้ได้ระดมกำลังจิตอาสาฉือจี้รวม 1,249 คน เจ้าหน้าที่มูลนิธิ 436 คน เจ้าหน้าที่รัฐ 1,144 คน และจิตอาสาผู้มีจิตศรัทธาในสังคม 1,839 คน โดยทุกคนล้วนมาด้วยใจ เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้
จิตอาสาฉือจี้ประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน สร้างความเข้าใจถึงเงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการมอบถุงยังชีพในระยะที่ 2
ช่วยเหลือต่อเนื่อง เคียงข้างจนยืนหยัดได้เองอีกครั้ง
ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2563 เป็นต้นมา ด้วยคำชี้แนะของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย กำลังดำเนินโครงการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระยะที่ 2 โดยจะส่งมอบถุงยังชีพ แก่ผู้ที่เดือดร้อนต่อเนื่องอีกสามเดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระความทุกข์ยาก เคียงข้างให้ทุกคนสู้ต่อไปได้อย่างอิ่มท้อง จนสามารถกลับมายืนหยัดได้ด้วยตนเองอีกครั้ง
เรื่อง บุษรา สมบัติ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี, ดรรชนี สุระเทพ