ค้นหาข่าว

จากการมอบถุงยังชีพแท็กซี่ สู่การช่วยเหลือด้านรักษาพยาบาล

 



20211116cover


จากการมอบถุงยังชีพสู่การให้ความช่วยเหลือด้านการกุศลและด้านการรักษาพยาบาล ดังนั้น กิจกรรมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ขับแท็กซี่ เมื่อ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงไม่เพียงเห็นถึงภาพการมอบถุงยังชีพ หากยังเห็นความรักอันยิ่งใหญ่ของฉือจี้ ขยายแผ่กว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้กำลังใจพวกเขาฟื้นฟูชีวิตจากพิษโรคระบาดโควิด-19


                  

 

20211116-056-bydatchanee
กิจกรรมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ขับแท็กซี่ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในขณะที่จิตอาสามอบถุงยังชีพนั้น ยังเชิญชวนผู้ขับแท็กซี่ร่วมทำความดี สะสมน้ำใจวันละเล็กละน้อยในกระปุกออมบุญ

 

20211116-013-bydatchanee

จิตอาสาติดตั้งกระปุกออมบุญในรถแท็กซี่ เพื่อให้จุดประกายกุศลจิตและเชิญชวนผู้คนมาร่วมทำความดีผ่านกระปุกออมบุญ

 

20211116-069-bydatchanee

การช่วยเหลือของฉือจี้มิใช่เพียงการมอบสิ่งของเท่านั้น หากยังมอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับผู้ขับแท็กซี่ที่เจ็บป่วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่พวกเขา

 

20211116-093-bydatchanee

ผู้ขับแท็กซี่นำกระปุกออมบุญคืนสู่เหย้า บริจาคน้ำใจที่สั่งสมวันละเล็กวันละน้อยให้ฉือจี้ นำไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

 

ขยาย “ความรักอันยิ่งใหญ่” สู่การให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน

คุณบุญเลิศ ผู้ขับแท็กซี่ วัย 46 ปี ประกอบอาชีพขับแท็กซี่มานานถึง 20 กว่าปีแล้ว และเป็นหนึ่งผู้ได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่โควิดระบาดหนักนั้น จำนวนผู้โดยสารต่างชาติลดลงเหลือศูนย์ ในขณะที่ผู้โดยสารชาวไทยก็เดินทางออกจากบ้านน้อยลง แต่ละวันค่าใช้จ่ายแทบจะมากกว่ารายได้ ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ ลำบากหนักหนายากเกินบรรยาย


ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำโดยไม่ต้องกักตัว สร้างความหวังให้ผู้ขับแท็กซี่ไม่น้อย ทว่า อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตาในระยะนี้ ก็ทำให้คุณบุญเลิศรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยในขณะขับขี่ “อาการที่เป็นมันก็มีอุปสรรคในการทำงาน เพราะเราต้องใช้สายตา ต้องขับรถตั้งแต่เช้า ตอนเช้าก็มองไม่ค่อยชัด พอสายๆแดดส่องก็น้ำตาก็ไหล มันมองไม่ค่อยชัดครับ”

 

boonlert2
อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตาในระยะนี้ ก็ทำให้คุณบุญเลิศรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยในขณะขับขี่


แม้ว่าคุณบุญเลิศอยากจะไปโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาสักเพียงใด ทว่า ภาพความแออัดในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งมีผู้ป่วยรอรับบริการเป็นจำนวนมาก อีกทั้งต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันกว่าจะแล้วเสร็จ ทำให้คุณบุญเลิศลังเลใจ เพราะหากไปพบแพทย์ ก็เท่ากับรายได้จากการขับแท็กซี่หายไป 1 วัน


กิจกรรมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ขับแท็กซี่ เมื่อ 28-29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้คุณบุญเลิศได้รู้จักฉือจี้ และจากการบอกเล่าของประธานสมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทย ยังทำให้ทราบว่า มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย เปิดให้บริการ “คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้” โดยเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวออนไลน์ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยที่มารับบริการ และลดระยะเวลารอแพบแพทย์ ดังนั้น คุณบุญเลิศจึงขอความช่วยเหลือมายังฉือจี้ เมื่อจิตอาสาทราบแล้ว จึงเร่งดำเนินการให้คุณบุญเลิศดำเนินการลงทะเบียนจองคิวออนไลน์ เมื่อถึงวันนัดหมาย คุณบุญเลิศเพียงจอดรถข้างทาง พักให้บริการขับแท็กซี่ชั่วคราว และพบแพทย์ผ่านการวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

 

20211031-02-bysingharat

คุณบุญเลิศรับบริการรักษาผ่านการวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

 


“ตอนนี้คือพยายามเลี่ยงไม่ให้โดนแสงเดดกับโดนลมตีเยอะๆ เดี๋ยวมันจะยิ่งอักเสบนะครับ เดี๋ยวหมอให้ยาหยอดตาแก้ระคายเคืองไปก่อนนะครับ” แพทย์รับฟังคุณบุญเลิศบอกเล่าอาการ พร้อมทั้งบริการตรวจวินิจฉัยและให้คำแนะนำด้วยความใส่ใจ


“แพทย์ได้วินิจฉัยว่า คุณบุญเลิศมีอาการในลักษณะเยื่อตาแห้ง ก็เลยจ่ายยาหยอดตา หรือน้ำตาเทียมให้ค่ะ” คุณมรินธรณ์ เสมรอด เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ เล่าถึงอาการของคุณบุญเลิศ

 

จากการมอบถุงยังชีพ สู่การ “รักษาโรค รักษาใจ”

นอกจากนี้ แพทย์ยังเขียนใบส่งตัว เพื่อส่งตัวให้คุณบุญเลิศไปตรวจตาอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลราชวิถี หลังผ่านการตรวจอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์แล้วพบว่า คุณบุญเลิศมีอาการเป็นต้อหินในระยะเริ่มต้น และแพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด ลมพัดตาโดยตรง ลดการจ้องโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เพื่อไม่กระตุ้นให้อาการของโรครุนแรงไปมากกว่านี้

 

20211102-007-bydatchanee
เจ้าหน้าที่มอบใบส่งตัวให้กับคุณบุญเลิศ เพื่อนำไปรับการตรวจตาอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลราชวิถี


boonlert
หลังผ่านการตรวจอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์แล้วพบว่า คุณบุญเลิศมีอาการเป็นต้อหินในระยะเริ่มต้น และแพทย์แนะนำให้ดูแลดวงตา เพื่อไม่กระตุ้นให้อาการของโรครุนแรงไปมากกว่านี้


คุณบุญเลิศปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งหยอดตาด้วยน้ำตาเทียมและดูแลดวงตาเป็นอย่างดี สองสัปดาห์ต่อมา อาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คุณบุญเลิศรู้สึกสบายใจในขณะขับขี่มากยิ่งขึ้น หลังจากได้รับถุงยังชีพ และได้รับการช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล ซึ่งทุกขั้นตอนล้วนมีจิตอาสาให้การช่วยเหลือและเคียงข้างด้วยความใส่ใจ ทำให้คุณบุญเลิศรู้สึกประทับใจ และแบ่งปันความรู้สึกว่า “ถึงจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อย แต่ว่าผมก็ปลื้มใจนะ รู้สึกดีใจที่ยังมีมูลนิธิฯดูแลเหมือนกับครอบครัวเดียวกัน”


“ผู้ให้” ย่อมมีความสุขมากกว่าผู้รับ

ทุกครั้งของการสตาร์ทรถมิใช่แค่เพียงการขับแท็กซี่เลี้ยงชีพได้เริ่มต้นแล้วเท่านั้น หากยังหมายถึงวัฏจักรแห่งความดีได้หมุนเวียนไปไม่มีสิ้นสุด คุณบุญเลิศแบ่งปันความรู้สึกว่า “แต่ก่อนเราก็หยอดเงินใส่กระปุกออมสินของตัวเราเอง แต่เดี๋ยวนี้เราก็หยอดใส่กระปุกออมบุญของฉือจี้ คือตื่นเช้ามาก็หยอดก่อน 15 บาท 20 บาท พอช่วงสายๆ ถ้ามีผู้โดยสารให้เศษเหรียญ 5 บาท 7 บาท ผมก็หยอดใส่ไปด้วยครับ”

 

20211102-009-bydatchanee
คุณบุญเลิศนำกระปุกออมบุญติดไว้ในรถเสมอ เพื่อเป็นสะพานบุญ เชิญชวนผู้โดยสารร่วมบริจาคน้ำใจ สั่งสมความดีในทุกๆวัน

 

20211116-078-bydatchanee
คุณบุญเลิศ (ซ้าย 1)ดูแลดวงตาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และอาการก็ค่อยๆดีขึ้น โดยคุณบุญเลิศยังสละเวลา มาร่วมเป็นจิตอาสาในกิจกรรมมอบถุงยังชีพอีกด้วย

 

คุณบุญเลิศเห็นด้วยกับแนวคิดการออมบุญ จึงนำกระปุกออมบุญวางไว้ในรถเสมอ เพื่อเป็นสะพานบุญและเชิญชวนผู้โดยสารร่วมบริจาคน้ำใจ สั่งสมวันละเล็กวันละน้อย คุณบุญเลิศ ยังบอกอีกว่า หากกระปุกออมบุญเต็มแล้ว เขาจะนำมาบริจาคสมทบกองทุนของฉือจี้ หวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากต่อไป

 

 


                  เรื่อง  ดรรชนี สุระเทพ      ภาพ  พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี,บุษรา สมบัติ,ดรรชนี สุระเทพ