ค้นหาข่าว

ยื่นมือช่วยเหลือ เคียงข้างผู้ลี้ภัยผ่านวิกฤติ

 

20211208-10cover

 

มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ เคียงข้างผู้ลี้ภัยก้าวผ่านวิกฤติ
8-10 ธันวาคม 2564 มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย จัดกิจกรรมมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ให้กับผู้ลี้ภัย ทั้งในและนอกสถานที่ รวม 4 สถานที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอวยพรเนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้

 

20211208-01-bybudsara
ล่ามแปลภาษาช่วยเน้นย้ำให้ผู้ลี้ภัยเว้นระยะห่างทางสังคม และให้ทุกคนวัดอุณหภูมิร่างกาย รับแอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าสู่สถานที่จัดกิจกรรม


ทุกสถานที่ที่ฉือจี้จัดกิจกรรม ล้วนมีผู้ลี้ภัยเดินทางมารอรับความช่วยเหลือก่อนเวลานัดหมายเสมอ พร้อมกับใจที่เปี่ยมด้วยความหวัง และฉือจี้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยให้ทุกคนวัดอุณหภูมิร่างกาย รับแอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อโรค พร้อมทั้งกำชับให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อหรือติดเชื้อโควิด

 

20211208-008-bydatchanee
เจ้าหน้าที่ค้นหาผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพด้วยหมายเลขบนบัตร UNHCR หรือหมายเลขหนังสือเดินทาง

 

โดยก่อนที่จะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าว จิตอาสาได้ดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้ลี้ภัยและบันทึกลงในระบบเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ในวันนัดหมายรับเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพ ผู้ลี้ภัยก็เพียงยื่นบัตร UNHCR หรือหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการค้นหารายชื่อผู้มีสิทธิ์ด้วยหมายเลขบนบัตร UNHCR หรือหมายเลขของหนังสือเดินทาง หากพบว่า “มีรายชื่อ” ก็สามารถรับเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพได้ตามลำดับ หากพบว่า “ไม่มีรายชื่อ” ก็ค้นหาข้อผิดพลาดหรือปัญหาเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษาที่จุดอำนวยการ ทั้งนี้เพื่อป้องกันความแออัดในจุดบริการต่างๆ และทำให้กิจกรรมราบรื่นมากยิ่งขึ้น

 

ยื่นมือให้ความช่วยเหลือ มอบ “แสงสว่าง” นำพาชีวิตผู้ลี้ภัย
“การให้ความช่วยเหลือ” เปรียบเหมือนดั่ง “แสงสว่าง” ซึ่งไม่เพียงนำพาความสว่าง หากยังทำให้เรารู้สึกได้ถึงความอบอุ่น

 

20211208-19-bybudsara
จิตอาสามอบเงินสงเคราะห์ให้กับผู้ลี้ภัย พร้อมทั้งกล่าวคำอวรพรด้วยความปรารถนา

 

คุณรูเทนโด ผู้ลี้ภัยชาวซิมบับเว อพยพมาอาศัยในประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน เป็นผู้ใหญ่ 4 คน และเด็ก 5 คน ด้วยสถานะผู้ลี้ภัย เธอจึงไม่สามารถทำงาน ไม่มีรายได้ ทำได้เพียงรอรับความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศลต่างๆ ครั้งนี้เธอรู้สึกดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากฉือจี้ คุณรูเทนโด แบ่งปันความรู้สึกว่า “คุณรู้ไหมว่า มันยากนะที่ผู้ลี้ภัยอย่างเราๆจะได้รับการช่วยเหลือเรื่องอาหารการกิน และก็ยากที่จะมีโอกาสในการทำงาน ฉันคิดว่าฉือจี้ช่วยเหลือพวกเรามากมายจริงๆค่ะ”


คุณกาลามาลักสมี ผู้ลี้ภัยชาวศรีลังกา ซึ่งเมื่อได้รับเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพแล้ว เธอก็ยุ่งอยู่กับการจัดสิ่งของเพื่อสะดวกต่อการขนกลับบ้าน เมื่อพบเจอกับจิตอาสา เธอก็เงยหน้าขึ้นมาทักทายและสนทนา หลังจากพูดคุยกับเธอแล้วจึงทราบว่า คุณกาลามาลักสมี เป็นหนึ่งในครอบครัวผู้ยากไร้ที่ฉือจี้ให้การช่วยเหลือระยะยาว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 แม้ว่าจะได้รับเงินสงเคราะห์จากฉือจี้ทุกๆเดือน ทว่า ด้วยบทบาทของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งต้องเลี้ยงดูลูกสองคน ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ใดๆ ทำให้การใช้ชีวิตมิใช่เรื่องง่ายนัก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สถานการณ์แพร่ระบาดหนักของโรคโควิด “ชีวิตลำบากมากๆเลยค่ะ ปัญหาด้านสุขภาพก็มี ปัญหาค่าเช่าห้องก็มี ลำบากจริงค่ะ” คุณกาลามาลักสมี แบ่งปันช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วยน้ำตาคลอเบ้า


ปัญหาต่างๆที่ถาโถม ทำให้คุณกาลามาลักสมีรู้สึกเครียดไม่น้อย ทว่า เมื่อได้มาสถานธรรมจิ้งซือ เธอก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น คุณกาลามาลักสมี แบ่งปันความรู้สึกว่า “วันนี้รู้สึกดีใจมากๆค่ะ ขอบคุณในทุกความช่วยเหลือที่ฉือจี้มอบให้ เดิมทีฉันรู้สึกทุกข์ใจมาก แต่ตอนนี้เมื่อได้มาฉือจี้แล้ว ฉันก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ”


มอบน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ลี้ภัย “อิ่มท้อง” และ “อุ่นใจ”

ภายในถุงยังชีพของฉือจี้ประกอบไปด้วย ข้าวสารหรือแป้ง น้ำมัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส น้ำผลไม้ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น ซึ่งเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

 

20211208-477-bylek
จิตอาสาด้านหนึ่งมอบถุงยังชีพให้กับผู้ลี้ภัย ส่วนจิตอาสาอีกด้านหนึ่งก็พนมไหว้กล่าวคำอวยพร

 

20211208-10-combination 

จิตอาสามอบถุงยังชีพให้กับผู้ลี้ภัย พร้อมทั้งอวยพรด้วยความจริงใจ


คุณบลินห์ ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม มีสมาชิกในครอบครัว 4 คน ได้แก่ สามี ลูก 2 คนและตัวเธอเอง เธอและครอบครัวอาศัยอยู่ในต่างถิ่นฐานบ้านเกิดด้วยความลำบาก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสามียังป่วยเป็นโรคนิ่ว ซึ่งเคยไปพบแพทย์แล้ว และแพทย์ได้แนะนำให้รับการผ่าตัดรักษา ทว่า ด้วยสถานะผู้ลี้ภัย ไม่มีสวัสดิการใดๆรองรับค่ารักษาพยาบาล หากต้องผ่าตัดพวกเขาก็ต้องจ่ายค่ารักษาเอง เพราะไม่มีเงินมากพอ สามีจึงต้องทนทุกข์กับความเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม สามีก็ยังคงทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินมาจุนเจือสี่ชีวิตในครอบครัว ซึ่งรายได้ก็ไม่แน่นอน เนื่องจากสามีได้ทำงานเพียงสัปดาห์ละ 2-3 วัน โดยจะมีคนมาเรียกให้ไปทำงานก่อสร้างหรือกวาดถนน แต่บางครั้งก็ตกงานเป็นเวลานานหลายวัน เช่นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีใครมาเรียกให้ไปทำงานเลย แล้วเช่นนี้จะมีเงินเข้ากระเป๋าได้อย่างไรล่ะ

จิตอาสาจึงสอบถามคุณบลินห์ว่า “ไม่มีเงินอย่างนี้ คุณบลินห์และครอบครัวใช้ชีวิตกันอย่างไรล่ะ” คุณบลินห์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “เราก็ได้ข้าวสาร อาหารแห้งที่ฉือจี้เคยแจกก่อนหน้านี้ประทังชีวิตไปค่ะ” เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากฉือจี้อีกครั้ง คุณบลินห์ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เปิดดูสิ่งของภายในถุงยังชีพด้วยความดีใจ ราวกับว่ากำลังแกะกล่องของขวัญที่รอคอย “ดีใจค่ะ วันนี้ขอบคุณมากที่ฉือจี้ให้ตังค์ ให้ข้าวสาร และก็ให้บะหมี่ ฯลฯ ขอบคุณมากค่ะ” คุณบลินห์แบ่งปันความรู้สึก

 

มอบเงินสงคราะห์ ช่วยผู้ลี้ภัยอยู่อาศัยด้วยความอุ่นใจ

ครั้งแรกกับการมอบเงินสงเคราะห์ให้กับผู้ลี้ภัย ฉือจี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถแบ่งเบาภาระ แบ่งเบาความทุกข์กังวล และสร้างความอุ่นใจให้พวกเขามากยิ่งขึ้น

 

20211208-110-bylek
จิตอาสาอธิบายถึงเนื้อหาและขั้นตอนกิจกรรมมอบสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ลี้ภัยกับตัวแทนของสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย

 

20211208-141-bylek
ตัวแทนของสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย (ขวา) มอบถุงยังชีพให้กับผู้ลี้ภัย เพือร่วมเป็นประจักษ์พยานในความรักอันยิ่งใหญ่

 

คุณเยิม ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม ลี้ภัยมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยนานถึง 14 ปีแล้ว จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับประเทศไทยเป็นอย่างดี และสื่อสารภาษาไทยอย่างคล่องแคล่ว คุณเยิมทำงานรับจ้างทั่วไป โดยบางครั้งก็ทำงานก่อสร้าง บางครั้งก็ทำงานเป็นล่ามภาษาให้กับองค์กรการกุศลที่ต้องการสื่อสารกับผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม เป็นต้น รายได้ไม่มั่นคง โดยเฉพาะช่วงโควิดระบาดหนัก คนไทยในพื้นที่ต่างกลัวว่าชาวต่างชาติจะนำเชื้อโรคมาแพร่ระบาด จึงทำให้ช่วงเวลานั้น งานก่อสร้างไม่รับชาวต่างด้าวทำงาน ดังนั้น เขาจึงตกงาน ไม่มีรายได้ จนต้องค้างจ่ายค่าเช่าห้อง


ตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดเริ่มดีขึ้น คุณเยิมมีงานทำบ้างแล้ว แต่มีรายได้เพียงพอแค่สำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของสมาชิกในครอบครัว 3 คนเท่านั้น ส่วนค่าเช่าห้องก็ยังคงค้างจ่ายเช่นเดิม ดังนั้น กิจกรรมมอบเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพของฉือจี้ จึงทำให้คุณเยิมรู้สึกคลายความกังวลและความทุกข์ในใจ โดยคุณเยิมบอกว่าจะนำเงินที่ได้รับไปจ่ายค่าห้องที่ค้างจ่าย และกล่าวขอบคุณฉือจี้ว่า “ฉือจี้มาช่วยแบบนี้ เราก็ดีใจมาก เพราะทำให้เรามีของกิน และมีเงินใช้ด้วยอ่ะครับ”

 

จุดประกายความดีงามด้วยความรัก
การให้ความช่วยเหลือด้วยความจริงใจเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้ผู้ได้รับความช่วยเหลือรู้สึกซาบซึ้งใจ หากยังจุดประกายความดีงามภายในจิตใจของพวกเขาได้ไม่น้อย

 

20211210-098-bylek
นอกจากจัดกิจกรรมที่สถานธรรมจิ้งซือแล้ว จิตอาสายังลงพื้นที่จัดกิจกรรมมอบสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ลี้ภัยในชุมชนต่างๆ



20211210-054-bylek
จิตอาสาลงพื้นที่สู่ชุมชน เพื่อนำเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพไปมอบถึงมือผู้ลี้ภัยด้วยตัวเอง


ซาบีฮา สาววัยวัย 17 ผู้ลี้ภัยชาวศรีลังกา แม้จะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในต่างถิ่นฐานบ้านเกิด แต่เธอก็มีความฝันอยากเป็นแพทย์ ภายใต้การช่วยเหลือของ BRC ทำให้เธอสามารถเรียนในโรงเรียนรัฐได้ ซึ่งตอนนี้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เพื่อสานฝันของตัวเอง ซาบีฮายังเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นทักษะสำหรับใช้เรียนแพทย์ได้ในอนาคต


ซาบีฮาและครอบครัวอพยพมาอาศัยในประเทศไทย 7 ปีแล้ว แต่พ่อ แม่และพี่ชาย ถูกจับกุมและถูกผลักดันกลับประเทศเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้จึงมีเพียงพี่ชาย พี่สาว และเธอ รวม 3 คน ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยปกติพวกเขามีรายได้จากการรับจ้างทั่วไป โดยบางครั้งจะมีคนจ้างไปช่วยงานทาสี ทว่า ในช่วงเวลาที่โควิดระบาดหนัก ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ใดๆเลย แต่โชคดีที่ยังมีถุงยังชีพของฉือจี้ ทำให้พวกเขามีข้าวสาร อาหารแห้ง เพียงพอให้อิ่มท้อง และยังมีผู้ใจบุญคอยหยิบยื่นความช่วยเหลืออยู่เสมอ ทำให้พวกเขาสามารถผ่านวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้มาได้


ชีวิตผู้ลี้ภัยที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากต่างๆนานา มีผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ และมีฉือจี้คอยเคียงข้าง ทำให้สาวน้อยซาบีฮารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก และเธอก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถตอบแทนสังคมได้ ซาบีฮา แบ่งปันความรู้สึกว่า “ตอนที่ลำบากฉือจี้มาช่วยหนู หนูขอบคุณมากๆนะคะ ตอนนี้หนูพอที่จะดูแลตัวเองได้ หนูสัญญาว่า ต่อไปหนูโตแล้ว หนูจะช่วยเหลือคนที่ไม่มีอาหาร หรือคนไม่มีบ้านค่ะ ”


20211209-017-bydatchanee
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพที่ฉือจี้มอบให้ จะสามารถเคียงข้างผู้ลี้ภัยก้าวผ่านความลำบากได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น

20211208-112-bylek
เมื่อได้รับเงินสงเคราะห์และถุงยังชีพแล้ว ผู้ลี้ภัยก็เดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข

 

เงินสงเคราะห์และถุงยังชีพแต่ละชุดส่งมอบถึงมือผู้ลี้ภัยทีละคน พร้อมกับคำอวยพรด้วยความปรารถนาดีของจิตอาสา ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า น้ำใจของฉือจี้จะเป็นดั่ง “แสงสว่าง” นำทางผู้ลี้ภัยเดินออกจากความมืดมน หลุดพ้นจากความลำบากขัดสนทั้งปวง สู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

 

 


                  เรื่อง  ดรรชนี สุระเทพ      ภาพ  พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี,บุษรา สมบัติ,ดรรชนี สุระเทพ