มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย เริ่มดำเนินโครงการสงเคราะห์ทุนการศึกษากล้าใหม่ต่อเนื่องเป็นประจำทุกๆปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ทว่า จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดการจัดกิกรรมใน พ.ศ.2564 ไปเป็นเวลา 1 ปี ขอบพระคุณในความเมตตาของท่านธรรมาจารย์ และการสนับสนุนจากฉือจี้สำนักงานใหญ่ไต้หวัน ทำให้ปีนี้ ฉือจี้ในเมืองไทย สามารถดำเนินโครงการสงเคราะห์ทุนการศึกษากล้าใหม่ได้ดังเดิม
ปีนี้มีทั้งนักเรียนที่ได้รับทุนเป็นปีแรก นักเรียนที่ได้รับทุนต่อเนื่องหลายปีซึ่งกำลังศึกษาอยู่ และนักเรียนที่ได้รับทุนต่อเนื่องหลายปีจนสำเร็จการศึกษาแล้ว นักเรียนซึ่งเปรียบดั่งเมล็ดพันธุ์ เป็นความหวังอนาคตเหล่านี้ ต่างรู้สึกซาบซึ้งใจที่มีทุนการศึกษาฉือจี้ เคียงข้างเส้นทางแห่งความฝันของพวกเขา
แบ่งเบาภาระครอบครัว ให้กำลังใจเหล่าเมล็ดพันธุ์
จากกิจกรรมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ทำให้จิตอาสาฉือจี้ได้รู้จักกับคุณสมหมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการช่วยเหลือ และจากการลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ยังทำให้ทราบถึงยากลำบากของคุณสมหมาย
จิตอาสาลงพื้นที่เยี่ยมบ้านคุณสมหมาย พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินต่อเนื่อง 3 เดือน
คุณสมหมาย รับจ้างเย็บผ้าที่บ้าน และดูแลสามีซึ่งเส้นเลือดในสมองแตกจนเป็นอัมพฤษครึ่งซีกขวาไปในขณะเดียวกัน ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้น้อยลงและไม่มั่นคง ดังนั้น การรับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัวมิใช่เรื่องง่ายนัก ส่วน “ณัฐธิดา” ลูกสาวคนเดียวของคุณสมหมาย ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เห็นถึงความลำบากของแม่เช่นนี้แล้วก็ไม่นิ่งดูดาย ทำงานพาร์ทไทม์ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หวังหารายได้อีกหนึ่งช่องทางแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัว ด้วยเหตุนี้ ฉือจี้จึงให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินต่อเนื่อง 3 เดือน อีกทั้งมอบทุนการศึกษาให้กับณัฐธิดา
ณัฐธิดาได้รับทุนการศึกษาจากฉือจี้เป็นปีแรก ซึ่งเงินทุนการศึกษานี้สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเป็นกำลังใจในการเล่าเรียน
“พอดีฉือจี้เข้ามาช่วย เราก็ได้ตรงนี้มาบรรเทาเราได้ในระดับหนึ่ง” คุณสมหมายแบ่งปันความรู้สึก
ณัฐธิดา แบ่งปันความรู้สึกว่า “ดีใจค่ะและขอบคุณฉือจี้ที่เข้ามาช่วยเหลือ ไม่ทอดทิ้งผู้คนให้ลำบาก”
เคียงข้างเมล็ดพันธุ์ สานฝันให้สำเร็จ
"วารินทร์" หนึ่งในนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาฉือจี้ ปัจจุบันศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง สาขาการศึกษาประถมวัย ซึ่งปีนี้อยู่ในระหว่างการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ช่วยสอนเด็กๆอนุบาลในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กๆ วารินทร์จึงจัดทำสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายและน่าสนใจ ดังนั้น ปีสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา ก่อนจะเป็นคุณครูในอนาคตอันใกล้นี้ ทุนการศึกษาฉือจี้ยังเคียงข้างวารินทร์ “การที่เราออกไปฝึกประสบการณ์ เราจะต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน หรือค่าอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนต่างๆ ทุนการศึกษาฉือจี้ถือว่าเป็นเงินที่ช่วยพัฒนาเด็กๆไปด้วยค่ะ ”
ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสอนนักเรียนระดับปฐมวัยนั้น วารินทร์ตั้งใจจัดทำสื่อการเรียนการสอนอันหลากหลายและน่าสนใจ เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ให้พวกเขาสนใจเรียนรู้อย่างมีความสุขและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงมอบทุนการศึกษา จิตอาสาฉือจี้ จ.ราชบุรี ยังนำนักเรียนทุนที่ได้รับทุนการศึกษาฉือจี้ ร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อทำให้พวกเขารู้จักฉือจี้ให้มากยิ่งขึ้น และบ่มเพาะคุณธรรมไปในขณะเดียวกันอีกด้วย
วารินทร์ ได้รับทุนการศึกษาจากฉือจี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2559 โดยในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา วารินทร์มักจะร่วมกิจกรรมต่างของฉือจี้เสมอ เช่น กิจกรรมเยี่ยมครอบครัวผู้ยากไร้ กิจกรรมจิตอาสาในโรงพยาบาล กิจกรรมคัดแยกขยะรีไซเคิล เป็นต้น
วารินทร์แบ่งปันว่า ทุนการศึกษาฉือจี้ไม่หวังช่วยสนับสนุนการศึกษาของเธอเท่านั้น ในขณะเดียวกันยังมีส่วนช่วยพัฒนาการเรียนการสอนของเด็กๆเหล่านี้อีกด้วย
ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ทำให้วารินทร์ค่อยๆเรียนรู้ถึงแนวคิดความรักอันยิ่งใหญ่ และในระหว่างที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ วารินทร์ก็ไม่ลืมนำแนวคิดอันดีที่ได้เรียนรู้จากฉือจี้ ส่งต่อให้กับเด็กๆ วารินทร์แบ่งปันว่า “เมื่อโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมจิตอาสา เราจะนำเด็กไปร่วมกิจกรรมทุกครั้ง เพื่อปลูกฝังเด็กๆรู้ว่า เราสามารถช่วยคนอื่นได้ และให้เขาได้ภูมิใจในตัวเอง ที่เขาได้ช่วยเป็นจิตอาสา ”
มอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พลิกชีวิตต้นกล้าแห่งการศึกษา
เตรียมยาให้คุณยายรับประทาน นี่ก็คือสิ่งที่ “สุดารัตน์“ ทำเป็นประจำทุกๆวัน คุณยายมีโรคประจำตัว 3 โรค ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ทำงานรับเลี้ยงเด็ก มีรายได้ไม่มากนัก อาศัยอยู่ด้วยกันสองยายหลาน
สุดารัตน์เตรียมยาให้ยายรับประทานทุกๆวัน แสดงออกถึงความรักและความกตัญญูที่มีต่อยาย
ภายใต้ข้อจำกัดในชีวิตต่างๆนานา สุดารัตน์ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชตชะตา ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ส่งผลให้มีผลการเรียนดีเยี่ยมมาโดยตลอด นอกจากนี้ เธอยังรู้จักทำงานหาเลี้ยงชีพตั้งแต่วัยเรียน โดยทุกเช้าเธอจะไปช่วยคนในละแวกบ้านขายปาท่องโก๋ เสาร์อาทิตย์ก็ทำงานพาร์ทไทม์ ค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อย ไว้สำหรับเป็นทุนการศึกษาเล่าเรียนในระดับปริญญาตรี
สุดารัตน์ ได้รับทุนการศึกษาจากฉือจี้ และเป็นครอบครัวที่ฉือจี้ให้การช่วยเหลือระยะยาว “ตั้งแต่รู้จักกับมูลนิธิมา รู้สึกว่าตัวเองมีกำลังใจในการเรียนมากขึ้น” สุดารัตน์แบ่งปันความรู้สึก
ตั้งแต่ พ.ศ.2559 เป็นต้นมา ฉือจี้มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องทุกๆปี และมอบเงินสงเคราะห์ให้กับสุดารัตน์ทุกๆเดือน ปัจจุบัน เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและเริ่มทำงาน ยืนหยัดได้ด้วยตนเองแล้ว
สุดารัตน์ชูสองนิ้ว ให้กำลังใจครอบครัวผู้ยากไร้ สื่อความหมายว่า “สู้ สู้ นะคะ”
ปัจจุบัน สุดารัตน์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หากมีเวลาว่าง สุดารัตน์ก็จะมาร่วมเยี่ยมครอบครัวผู้ยากไร้กับจิตอาสาฉือจี้ เรียนรู้ชีวิตในมุมมองที่แตกต่างออกไป สุดารัตน์ แบ่งปันว่า “รู้สึกมีความสุขไปอีกแบบหนึ่งที่เราได้เป็นผู้ให้บ้าง ไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนี้ใกล้ๆตัว แต่พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกสงสารเขา อยากช่วยให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น”
การมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการให้ความช่วยเหลือระยะยาว ค่อยๆปรับปรุงคุณภาพชีวิตของสุดารัตน์และยายให้ดีขึ้น ทั้งยังพลิกชีวิตพวกเขา ให้สามารถยืนหยัดด้วยตนเองได้ในที่สุด เช่นนี้ ฉือจี้จึงจะยุติการช่วยเหลือในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทว่า ทั้งสองยังคงยินดี พร้อมกับบอกว่า “เราโอเคค่ะ ฉือจี้จะได้ไปช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่าเรา และถ้าหากฉือจี้ต้องการความช่วยเหลือ หนูก็ยินดีไปร่วมเป็นจิตอาสาค่ะ”
อวยพรเหล่าเมล็ดพันธุ์ ตอบแทนสังคม ช่วยเหลือผู้อื่น
ประนมมือนบนอบ มอบพวงมาลัยต่อรูปท่านธรรมาจารย์ และจิตอาสาฉือจี้อาวุโส "ภิญญดา" และ "พัชรมัย" อดีตเคยได้รับทุนการศึกษาจากฉือจี้ ซึ่งจบการศึกษาและเพิ่งเริ่มทำงานเป็นพยาบาล 3 เดือนแล้ว โดยวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทั้งสองนั่งรถทั่วร์โดยสาร 5 ชั่วโมง เดินทางจาก จ.กาญจนบุรีมายังสถานธรรมจิ้งซือที่กรุงเทพฯโดยเฉพาะ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อชาวฉือจี้
ภิญญดาและพัชรมัย อดีตนักเรียนที่เคยได้รับทุนการศึกษาจากฉือจี้ มอบพวงมาลัยแด่ท่านธรรมาจารย์ และจิตอาสาฉือจี้อาวุโส
ภิญญดา เล่าว่า เธอได้รับทุนการศึกษาจากฉือจี้ต่อเนื่อง 2 ปี ซึ่งสามารถช่วยเติมเติมในรายจ่ายที่ขาดเหลือ และเป็นส่วนหนึ่งของการสานฝันของเธอ ภิญญดา แบ่งปันว่า “รู้สึกดีใจที่ได้ทุน มีกำลังในการเรียนด้วยอีกในระดับนึง ”
ภายใต้การดูแลของจิตอาสาด้วยความใส่ใจ ทั้งสองยังยินดีร่วมเป็นสมาชิกผู้บริจาคของฉือจี้ ออมเงิน ออมน้ำใจในทุกๆวัน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ลำบากมากกว่าต่อไป พัชรมัยแบ่งปันว่า “พอเราได้ทุน เราก็ยังได้ออมเงิน เหมือนกับบริจาคเงินให้กับทางฉือจี้ในทุกๆเดือนค่ะ”
คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานบริหารมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย อวยพรให้ทั้งสองดูแลผู้ป่วยดังญาติตน
เมื่อเห็นเมล็ดพันธุ์เติบโตอย่างงดงามเช่นนี้แล้ว คุณจารุวรรณ หีบท่าไม้ จิตอาสาฉือจี้ ซึ่งดูแลนักเรียนทุนการศึกษาด้วยความใส่ใจดั่งลูกหลานตน ก็รู้สึกซาบซึ่งใจอย่างยิ่ง ในบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นนั้น คุณจารุวรรณยื่นมือมอบอ้อมกอดอันอบอุ่นให้ทั้งสอง พร้อมทั้งกล่าวคำอวยพรว่า “เป็นเด็กดีนะลูกนะ กตัญญูต่อพ่อแม่และสังคมด้วยนะ ร่วมกันดูแลโลกใบนี้คะ”
เมื่อเห็นเหล่าเมล็ดพันธุ์เติบโตอย่างงดงาม คุณจารุวรรณ หีบท่าไม้ ก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง มอบอ้อมกอดอันอบอุ่น พร้อมทั้งอวยพรภิญญาดาและพัชรมัย
“ยินดีที่เรียนจบนะคะ ก็หวังว่าต่อนี้ไปทำงานเป็นพยาบาล ก็ขอให้รักคนไข้เหมือนกับญาติเราตัวเอง เราต้องทำได้อย่างนี้นะคะ” คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานบริหารมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย กล่าวอวยพรทิ้งท้ายภิญญดาและพัชรมัย ก่อนทั้งสองจะเดินทางกลับ
ในเส้นทางการเติบโตของเหล่าต้นกล้าทางการศึกษา มีชาวฉือจี้เคียงข้างเสมอ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเขาจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ในอนาคต เป็นร่มเงา เป็นที่พึ่งพิงของสังคมต่อไป
เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี , ดรรชนี สุระเทพ