จากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ความเป็นอยู่ของแท็กซี่จำนวนมากได้รับผลกระทบ ฉือจี้จึงดำเนินการมอบถุงยังชีพ ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่แท็กซี่ต่างก็ยินดีมาร่วมตอบแทนสังคม ผ่านโครงการต่างๆ ของฉือจี้ เช่น การจัดส่งชุดยาปันรัก ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว สืบทอดจงจรแห่งความดีให้ยั่งยืนต่อไป
แท็กซี่เดลิเวอรี่ ส่งยาปันรักรักษาโควิด
นอกเวลาชั่วโมงเร่งด่วน แท็กซี่สะพานบุญได้ขับรถคู่ใจซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินเข้ามายังสำนักงานฉือจี้ ถุงกระดาษบรรจุยาปันรักในมือทั้งหมด คือ ภารกิจในวันนี้
หลังออกเดินทางมาสักระยะ จนใกล้ถึงจุดหมายปลายทางตามโลเคชั่นที่ได้รับ คุณปิยวิทย์ ลิขิตคำพร หนึ่งในแท็กซี่สะพานบุญจัดส่งยาปันรัก จึงโทรศัพท์ไปแจ้งปลายสายด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “สวัสดีครับ ผมมาจากมูลนิธิฉือจี้นะครับ กำลังจะนำยามาส่งให้นะครับ”
คุณชลธาร ชะเอมเทศ แท็กซี่สะพานบุญ เข้ามารับยาปันรักจากเจ้าหน้าที่ฉือจี้ เพื่อนำไปส่งมอบแด่ผู้ป่วย
ถุงกระดาษบรรจุยาปันรักในมือ คุณสมชาย เกตุแก้วมณีรัตน์ แท็กซี่สะพานบุญ กำลังจะจัดส่งไปถึงผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว
การช่วยจัดส่งยาของแท็กซี่ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ใน กทม. ได้รับยารักษาโรคที่จำเป็นอย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงจุดนัดหมายและญาติของผู้ป่วยโควิดได้รับยา ภารกิจก็สำเร็จลุล่วง นี่เป็นบริการที่ฉือจี้ร่วมมือกับผู้ขับขี่แท็กซี่เพื่อจัดส่งชุดยาปันรัก ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ที่ลงทะเบียนขอรับยาผ่านช่องทางออนไลน์จาก "คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้" โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
คุณชลธาร ชะเอมเทศ หนึ่งในแท็กซี่สะพานบุญ จิตอาสาส่งยาปันรัก บอกเล่าถึงวัตถุประสงค์ที่เข้ามาร่วมเป็นจัดส่งยาดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ว่า “เรายินดีเข้ามาทำจิตอาสาตรงนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโควิดที่กำลังรอคอย ได้รับยารักษาโรครวดเร็วมากยิ่งขึ้นครับ”
คุณปิยวิทย์ ลิขิตคำพร แท็กซี่สะพานบุญ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้ว่า “สำหรับคนขับแท็กซี่แล้ว เวลาถือเป็นเงินเป็นทอง ทำให้เราไม่ค่อยได้มีโอกาสไปทำบุญโดยเฉพาะ แต่จากโครงการนี้ เราสามารถทำงานไปพร้อมกับทำบุญได้เลย ถือเป็นการทดแทนในสิ่งที่เราขาดครับ”
ด้วยความช่วยเหลือของพี่ๆ แท็กซี่สะพานบุญ ญาติและผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ในเขตพื้นที่ กทม. สามารถได้รับยาปันรักภายใน 24 ชม.
หลังจากโครงการแท็กซี่สะพานบุญ จัดส่งยาปันรัก ได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเขียวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ ได้รับยาภายในเวลา 24 ชั่วโมง หากขอช่วงเช้าก็จะได้รับภายในเย็นวันเดียวกัน หากขอช่วงบ่ายก็จะได้รับในวันรุ่งขึ้น เป็นหนึ่งในพลังดูแลรักษาสุขภาพของผู้คนในสังคม ให้ผ่านพ้นวิกฤติโรคระบาดในครั้งนี้
บอกเล่าเรื่องราวฉือจี้ ชักชวนร่วมทำความดี
ในระหว่างสถานการณ์โควิด ประเทศไทยซึ่งพึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ทำให้หลายคนตกงานขาดรายได้ รวมถึงผู้ขับแท็กซี่ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก ดังนั้น นอกจากช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั่วไปแล้ว ฉือจี้ยังได้ดำเนินการมอบถุงยังชีพ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับกลุ่มผู้ขับแท็กซี่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง
นอกจากมอบสิ่งของช่วยเหลือความเป็นอยู่ ครั้งนี้ยังได้ชักชวนผู้ขับแท็กซี่ มาร่วมรับฟังการแบ่งปันเรื่องราวของฉือจี้ เติมเต็มแรงบันดาลใจ โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14, 21 และ 27 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อสานสัมพันธ์ความรักอันยิ่งใหญ่ และผลักดันให้เกิดวัฏจักรแห่งความดีต่อไป
ก่อนเริ่มกิจกรรม จิตอาสาฉือจี้พนมมือไหว้ทักทายพี่ๆ แท็กซี่จิตอาสาอย่างเป็นกันเอง
คุณจางฮุ่ยเจิน รองประธานบริหารมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย กล่าวทักทายพี่ๆ แท็กซี่จิตอาสา
สติกเกอร์วาทะจิ้งซือบนรถแท็กซี่ นอกจากเตือนใจตนเอง ยังได้แบ่งปันกับทุกคนที่พบเห็นเมื่อขับไปตามถนนหนทาง ถือเป็นการให้ธรรมทานอย่างหนึ่ง
กระปุกออมบุญ "ออมเงินน้อย สร้างบุญใหญ่" เพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัย ยังได้ติดคิวอาร์โค้ดเลขบัญชีของฉือจี้ เพื่อระดมหยาดหยดธารน้ำใจของทุกคนที่อยากร่วมบุญ
ผศ.ดร.ทองดี เล็กโสภี ประธานมูลนิธิคุ้มครองผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะ ซึ่งมาร่วมรับฟังเรื่องราวโลกแห่งความรักของฉือจี้ บอกเล่าถึงความประทับใจในแนวคิดของการรวมพลังเล็กๆ เพื่อสร้างความดีอันยิ่งใหญ่ว่า “ฉือจี้ได้ชักชวนให้ผู้ขับแท็กซี่เข้ามาหล่อหลอมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการคิดดี คิดบวก และคิดถึงคนอื่น เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ตรงนี้ถือเป็นจุดที่ดีมากเลยค่ะ”
หลังจากได้รับฟังเรื่องราวของกระปุกไม้ไผ่ออมบุญ การออมเงินน้อยเพื่อสร้างบุญใหญ่ ทำความดีโดยไม่กระทบความเป็นอยู่ของตัวเอง คุณวสันต์ นาคสาทา ผู้ขับแท็กซี่ก็ได้รับแรงบันดาลใจมากยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า “เราไม่ต้องรอจนกว่าจะมีเงินเยอะ แล้วค่อยทำบุญช่วยเหลือคนอื่น เพราะกระปุกออมบุญของฉือจี้อันนี้คือ ใครก็ตามที่ขึ้นรถมาเห็น ก็สามารถใส่ได้หมด ทำบุญได้หมด ร่วมบุญกันได้หมดเลยครับ”
ในช่วงท้ายของกิจกรรม ทุกคนร่วมตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้จิตมนุษย์สะอาดบริสุทธิ์ สังคมสงบสุข โลกปราศจากภัยพิบัติ
ผู้ขับแท็กซี่ร่วมนำกระปุกออมบุญ มาบริจาคให้ฉือจี้เป็นการเฉพาะ เพื่อเป็นพลังช่วยเหลือสังคมต่อไป
เนื่องจากผู้ขับแท็กซี่เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ต้องพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา จิตอาสาฉือจี้จึงมอบชาสมุนไพรจิ้งซือ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ร่วมแรงร่วมใจกัน ถักทอเครือข่ายความรักอันยิ่งใหญ่ ต้านภัยโรคระบาดด้วยความเข้มแข็ง
“บริการจัดส่งชุดยาปันรัก” จะชำระค่าโดยสารให้ผู้ขับแท็กซี่ โดยนับจุดเริ่มต้นจากสำนักงานฉือจี้จนถึงจุดหมายปลายทางให้ตามมิเตอร์ ไม่เพียงช่วยเหลือผู้ขับแท็กซี่ให้มีรายได้อยู่รอด เพราะแต่ยังทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ได้รับยารักษาโรคที่จำเป็นอย่างรวดเร็ว เครือข่ายแห่งรักอันยิ่งใหญ่ กำลังต้านภัยโรคระบาดอย่างเข้มแข็ง
เรื่อง บุษรา สมบัติ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี, สิงหราช ชวนชม, บุษรา สมบัติ