วันเวลาผ่านพ้นไปด้วยความไม่เที่ยงแท้ ดังนั้น เราจึงควรมีสติ ตื่นรู้อยู่เสมอ เพราะความไม่เที่ยงแท้นั้น ไม่เคยห่างจากตัวเราแม้เพียงวินาทีเดียว
หนูดำหนูขาว
มีชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งมักจะเข้าไปล่าสัตว์ในป่าอยู่เสมอ วันหนึ่งเขาโดนฝูงหมาป่าจำนวนมากเข้าโจมตีจากทั่วทุกสารทิศ ตัวเขาเพียงลำพังจะรับมือกับหมาป่าจำนวนมากนี้ได้อย่างไร
ชายหนุ่มรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ เมื่อเห็นบ่อน้ำ จึงคิดที่จะหลบลงไปอยู่ในบ่อ ประจวบกับเถาวัลย์เส้นนั้นก็ยาวไปถึงก้นบ่อพอดี ทว่าในขณะที่เขากำลังไต่เถาวัลย์ลงไปนั้น กลับพบว่าที่ก้นบ่อมีงูหลายตัวรออยู่ หากไต่ลงไปก็เจอกับงู แต่ถ้าปีนขึ้นไป ก็เจอกับฝูงหมาป่าดุร้ายที่กำลังรายล้อมอยู่
ในตอนนี้ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าบนเถาวัลย์มีหนูอยู่สองตัว ตัวหนึ่งสีขาว อีกตัวหนึ่งสีดำ ทั้งสองตัวกำลังกัดแทะเถาวัลย์อยู่อย่างขะมักเขม้น ชายหนุ่มจึงรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะหากหนูไม่ยอมหยุดกัดแทะเถาวัลย์ เถาวัลย์ก็จะขาด จนทำให้เขาต้องตกลงไปก้นบ่อ เจอกับงูที่กำลังชูคอเตรียมฉกอยู่แน่นอน
ในขณะที่เขาหวาดหวั่นอยู่นั้น เขาก็อ้าปากออก และพบว่ามีรังผึ้งอยู่บนต้นไม้ น้ำผึ้งค่อยๆ ไหลตามกิ่งไม้ลงมา จนหยดลงในปากของเขาพอดี น้ำผึ้งอันแสนหวาน หยดลงปากของเขาหยดแล้วหยดเล่า จนทำให้เขาลืมเลือนไปว่า มีหนูขาวและหนูดำกำลังกัดแทะเถาวัลย์อยู่ อีกทั้งก้นบ่อก็ยังมีงู 4 ตัวชูคอมองเขาอยู่
รูปโดย บุษรา สมบัติ
เรื่องเล่าดังกล่าวนี้ เปรียบเสมือนกับความไม่เที่ยงแท้ของชีวิตเรา หนูทั้งสองตัวเป็นตัวแทนของวันเวลา “หนูขาว แทนกลางวัน” “หนูดำ แทนกลางคืน” หนูที่กำลังกัดแทะ จึงเปรียบเสมือนวันเวลาที่กำลังผ่านพ้นไปไม่เคยหยุด เมื่อเวลากลางวันผ่านพ้นไปแล้ว ก็เข้าสู่เวลากลางคืน ที่ล่วงเลยไปโดยไม่ยอมหยุดพักเช่นเดียวกัน
ดังนั้น เวลาในชีวิตของเราก็เปรียบเสมือนเถาวัลย์เส้นนั้น ยิ่งเวลาล่วงเลยไป อายุขัยของเราก็ยิ่งลดน้อยลง แต่ตัวเลขของอายุเรากลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมักพูดอยู่เสมอว่า “ทุกปีเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ชีวิตก็เหลือน้อยลง”
ส่วนงู 4 ตัวที่อยู่ก้นบ่อ ก็เปรียบเสมือนธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ หากธาตุในร่างกายไม่สมดุล เราก็จะเจ็บป่วย เช่น เมื่อร่างกายมีความผิดปกติ ก็อาจจะเกิดอาการบวม เกิดเป็นแผลจนติดเชื้อ เป็นต้น นี่เป็นเพราะ ธาตุดินในร่างกายไม่สมดุล หากธาตุน้ำในร่างกายหรือเลือดไม่สมดุล ก็จะทำให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น หากธาตุไฟไม่สมดุล เมื่อวัดอุณหภูมิร่างกายก็อาจจะสูงกว่า 37 องศา เป็น 38-39 องศา หรืออาจจะสูงถึง 40 องศาก็เป็นได้ ซึ่งก็จำเป็นต้องรีบหาวีธีลดอุณหภูมิในร่างกายโดยด่วน ยังมี “ธาตุลมไม่สมดุล” อีก ซึ่งจะทำให้ระบบการหายใจผิดปกติ ไม่ว่าธาตุใดในร่างกายเกิดความไม่สมดุลขึ้น ย่อมทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง จนมีผลเสียตามมาอีกมากมาย
ชีวิตคนเราก็เป็นเช่นนี้มิใช่หรือ เราต่างรู้ดีว่าหนูขาวและหนูดำกำลังกัดแทะเถาวัลย์ชีวิตอยู่ ต่างก็รู้ดีว่าเวลามีจำกัด แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ปี เพราะทุกชีวิตล้วนไม่เที่ยงแท้ ไม่รู้ว่าเมื่อไรเถาวัลย์นั้นจะขาดลง ไม่รู้ว่าเมื่อไรชีวิตเราจะสิ้นสุดลง
เราต่างก็รู้ดีว่า ร่างกายประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 หากธาตุใดธาตุหนึ่งไม่สมดุล ความไม่เที่ยงแท้ของชีวิตก็จะมาถึงเร็วขึ้น ทว่าเมื่อได้ลิ้มรสหยาดหยดความหอมหวานของน้ำผึ้ง “น้ำผึ้ง” ที่เปรียบเสมือนกิเลส ความหอมหวานนั้นทำให้ถูกชักจูงจนจมดิ่งลงสู่กิเลส แม้คิดอยากจะหันหลังกลับก็มิใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว
จึงขอให้ทุกคนมีสติ มีความตื่นรู้และปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ นี่เป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งนัก ดังนั้น ตัวเราเองต้องตื่นรู้ก่อน จากนั้นจึงต้องชี้แนะให้ผู้อื่นได้ตื่นรู้ด้วย
ในการศึกษาพุทธธรรมนั้น เราต้องตระหนักว่า “ความไม่เที่ยงแท้” รอบตัวเรา ล่วงเลยไปวันแล้ววันเล่า ธาตุทั้งสี่ในร่างกายก็โดนจู่โจมอยู่ตลอด หากธาตุใดในร่างกายเกิดความไม่สมดุลขึ้น เมื่อนั้นย่อมนำความทุกข์ทรมานมหาศาลมาให้