ธาตุเดิมของทุกคนล้วนดีงาม นี่เป็นแนวคิดทั่วไปของเราและเป็นแนวคิดที่ถูกต้องที่สุด พระพุทธองค์ตรัสสอนและพิสูจน์ให้เราเห็นอย่างต่อเนื่องว่า พื้นฐานของเราล้วนดีงาม จิตใจของทุกคนล้วนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา จิตดั้งเดิมอันไร้มลทินแปดเปื้อนนี้ เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจากซึ่งกิเลสความเศร้าหมองโดยสิ้นเชิง
เราต้องรู้ว่า ทุกสิ่งไม่ว่าดีหรือชั่วล้วนมาจากใจ จิตใจนี้เกิดมาพร้อมกับความบริสุทธิ์ เราต้องบ่มเพาะขัดเกลาจิตใจอยู่ตลอดเวลา ให้มีความเมตตาและรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา นี่คือพื้นฐานจิตใจดั้งเดิมที่แท้จริง
ไม่ใช่แค่คนเท่านั้น แท้จริงแล้วสรรพสัตว์ทั้งหลาย ก็ล้วนมีพื้นฐานจิตใจดั้งเดิมที่ดีงามและบริสุทธิ์ เรียบง่าย ดังเช่นเรื่องเล่าดังต่อไปนี้
รูปโดย รติกร มณีฉาย
ลิงน้อยผู้ชาญฉลาดและกล้าหาญ
มีลิงน้อยที่ไร้เดียงสาและเฉลียวฉลาดตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในผืนป่า วันหนึ่งพ่อลิงวิ่งมาพร้อมกับตะโกนว่า “แย่แล้ว แย่แล้ว ไฟกำลังไหม้ ต้องรีบหนีออกจากป่ากันแล้ว”
พ่อลิงตะโกนบอกแม่ลิงว่า “เร็วเข้า รีบเก็บเสบียงอาหารที่จำเป็น เราต้องรีบหนีออกไปกันแล้ว”
พ่อลิงยังเร่งลูกลิงอีกว่า “เจ้าจงรีบไปเตรียมสัมภาระของตัวเอง แล้วรีบหนีออกไปด้วยกัน”
ลูกลิงก็ว่านอนสอนง่าย รีบหยิบหนังสือเล่มโปรดของตัวเองใส่ลงไปในเป้ ก่อนจะเริ่มออกเดินทางก็ยังปีนขึ้นไปเก็บกล้วยหอมลงมา จนลืมเป้ของตัวเองไว้ แล้วรีบวิ่งไปหาพ่อลิงกับแม่ลิงเพื่อออกเดินทาง
เมื่อมาได้ครึ่งทาง จึงพูดขึ้นว่า “ลูกลืมเอาหนังสือกับเป้มา”
พ่อลิงบอกว่า “ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน ไม่ต้องกลับไปเอาแล้ว”
ลูกลิงบอกว่า “ไม่ได้ นั่นเป็นหนังสือเล่มโปรดของลูก” พร้อมทั้งยืนยันที่จะกลับไปเอา
แม่ลิงจึงพูดขึ้นว่า “ลูกกลับไปเอาเถิด ขากลับให้ออกมาตามทิศทางลม แล้วลูกจะปลอดภัย”
ลูกลิงรีบวิ่งกลับไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเอง ก่อนจะรีบหนีออกมาตามทิศทางลม ระหว่างทางพบกับบีเวอร์ชราตัวหนึ่ง
ลูกลิงจึงถามว่า “ถ้าคุณยายไม่รีบหนี ไฟจะลามมาถึงแล้วนะครับ”
คุณยายบีเวอร์ตอบว่า “ยายแก่แล้ว วิ่งหนีไม่ไหวแล้ว”
ลูกลิงจึงบอกว่า “ผมจะแบกคุณยายไปเอง”
เพื่อรักษาชีวิต คุณยายบีเวอร์จึงปีนขึ้นไปบนตัวลูกลิง ก่อนที่ลูกลิงจะวิ่งด้วยความรวดเร็วต่อไป
วิ่งมาได้ครึ่งทาง ลูกลิงก็พบกับหนูหริ่งตัวหนึ่ง จึงถามขึ้นว่า “ทำไมคุณไม่รีบหนีไป”
หนูหริ่งตอบว่า “กลางคืนฉันจึงจะมองเห็น กลางวันอย่างนี้ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย ไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้ต้องวิ่งไปทางไหน”
ลูกลิงพูดว่า “มา คุณกระโดดเข้ามาในเป้ของผมสิ ผมจะแบกคุณไปเอง”
หนูหริ่งจึงรีบกระโดดเข้าไปในเป้ เมื่อลิงน้อยวิ่งไปจนถึงชายป่า ซึ่งเป็นหน้าผาลึก มันจึงครุ่นคิดว่าควรทำอย่างไรดี
เมื่อแหงนหน้ามอง ก็เห็นเถาวัลย์ของต้นสนที่ยาวพอจะข้ามไปถึงอีกฝั่งได้
ลูกลิงจึงบอกกับคุณยายบีเวอร์ว่า “คุณยายเกาะให้แน่นนะครับ” และบอกกับหนูหริ่งว่า “คุณหลบอยู่ในเป้ให้ดีนะ” จากนั้นลูกลิงจึงจับเถาวัลย์แน่น ก่อนจะกระโดดไปตามกิ่งต้นสน จนข้ามไปถึงอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย
คุณยายบีเวอร์จึงปีนลงมาจากหลังของลูกลิง พร้อมทั้งพูดว่า “หนูช่างมีความเห็นอกเห็นใจ ดั่งเทพผู้พิทักษ์ป่า”
นิทานเรื่องนี้ แม้จะเป็นเรื่องราวชีวิตของสัตว์ป่าบนภูเขา แต่เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า นี่คือพื้นฐานจิตใจดั้งเดิมของสิ่งมีชีวิตทุกประเภท ที่บริสุทธิ์หมดจด ไร้สิ่งแปดเปื้อน แม้จะเป็นสัตว์ป่า แต่ก็มีสติปัญญาและความเมตตาเท่าเทียมกับมนุษย์ ดังนั้นเราจึงต้องรู้ว่า พื้นฐานดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคนนั้นล้วนดีงาม แท้จริงแล้ว พื้นฐานดั้งเดิมของสรรพชีวิตล้วนดีงามทั้งสิ้น เมื่อจิตใจของเราไม่ถูกแปดเปื้อนด้วย ความโลภ โกรธ หลง ฟุ้งซ่านและลังเลสงสัย จิตใจของเราก็ย่อมสะอาดบริสุทธิ์ เมื่อนั้นโลกของเราก็จะสะอาดงดงามน่าอยู่เช่นกัน
ดังเช่นลูกลิงตัวนี้ ในป่ามีสิงสาราสัตว์มากมายหลายชนิด บ้างก็อ่อนโยน บ้างก็ดุร้าย แต่ไม่ว่ามันจะได้ยินเสียงแบบไหน ก็ยังรู้สึกว่าธรรมชาติของโลกเรานั้น เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ เห็นทุกการกระทำเป็นความงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็ยังสามารถดูแลตัวเองได้และยังสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่นได้อีกด้วย คิดดูเถิด นี่คือพื้นฐานที่แท้จริง
พุทธจิต จิตโพธิสัตว์ หรือจิตใจของมนุษย์
ล้วนมีความรักยิ่งใหญ่อันบริสุทธิ์เฉกเช่นเดียวกัน
ดังนั้น เราจึงต้องรู้จักตระหนัก บ่มเพาะความรักของตนเองตลอดเวลา ต้องรักษาจิตใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของตนเองไว้ ทุกคนต้องตั้งใจแน่วแน่อยู่เสมอ