Page 8 - วารสารครบรอบฉือจี้ไทย 20 ปี
P. 8
“อาจารย์คะ จ่ายเดือนละ 15 บาทไปเลยไม่ได้
หรือ” แม่บ้านคนหนึ่งถามออกมาตรงๆ
“อาจารย์ขอให้ท�าทุกวัน” ท่านธรรมาจารย์
อธิบายต่อว่า “เมื่อคุณน�าเงิน 50 สตางค์ หยอดลงใน
กระปุกทุกวัน เท่ากับว่าคุณจะได้จุดประกายกุศลจิตทุก
วัน นั่นหมายถึง ในหนึ่งเดือนคุณจะได้จุดประกายกุศล
จิตและตั้งปณิธานอันดีถึง 30 ครั้ง แต่การหยอดเดือนละ
15 บาท เท่ากับคุณได้จุดประกายกุศลจิตเพียงเดือนละ
ครั้งเท่านั้น นี่คือความแตกต่าง”
ทุกคนล้วนต้องการความมั่งมี แต่อะไรคือนิยาม
ของ “ความมั่งมี” ผู้ที่มีเหลือ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้
คือผู้มั่งมีที่แท้จริง ความมั่งมีนี้ไม่ได้จ�ากัดอยู่ที่จ�านวนเงิน
แต่ขึ้นอยู่กับ “ความคิด” โบราณกล่าวไว้ว่า “อย่าเห็นว่า
เป็นความดีเล็กน้อยแล้วไม่ท�า” ควรดูแบบอย่างจากแม่
บ้าน 30 คน ที่เริ่มต้นจากการเก็บออมเงินค่ากับข้าว
เพียงวันละ 50 สตางค์ จาก “ห้วงเวลากระบอกไม้ไผ่”
ที่สั่งสมกุศลจิต ท�าความดีทุกวัน จนสามารถรังสรรค์
สร้างหนทางแห่งฉือจี้ในวันนี้
「師父,能不能一個月繳十五元?」
這群市井主婦中有人問得直接。
「我要的是每天,」證嚴上人告訴她
們:「當你每天拿起五毛錢投進去,心裡想
起這是要救人,那麼,一個月就有三十次的
發好心、立好願,這跟月繳十五元,只一次
想到做好事,不同。」
人人都希望致富,富有的定義為何?
其實有餘力幫助別人,就是富有;不在於金
錢多寡,端視一念心。俗云:莫因善小而不
為。因為有三十位家庭主婦,每日存下五毛
買菜錢,以那段「竹筒歲月」為開端,累積
點滴善念,日日行善,才能走出今日慈濟的
道路。