“ถ้าให้นิยามกิจกรรมค่ายจตุสัมพันธ์พัฒนาอาสาสมัคร ดิฉันคิดว่าเหมือนเป็นวันคืนสู่เหย้า เพราะว่าจิตอาสาฉือจี้ทุกรุ่นได้มาเจอกัน ที่นี่ก็เหมือนเป็นแหล่งเรียนรู้ของชาวฉือจี้ หนึ่งปีได้มาเจอกันถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะ และดิฉันก็คิดว่าดิฉันจะมาทุกปีค่ะ”
คุณบังอร แสงโรจน์ศิริกุล ว่าที่กรรมการฉือจี้ ซึ่งจะเดินทางไปรังรองวุฒิกรรมการฉือจี้ที่ไต้หวันในปลายปีนี้ แบ่งปันให้คำนิยามของค่ายจตุสัมพันธ์พัฒนาอาสาสมัคร ฉะนั้น จึงจะเห็นว่าในระหว่างกิจกรรม คุณบังอรไขว่คว้าโอกาสอันดี ร่วมกิจกรรมด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจรับฟังการบรรยาย คอยจดบันทึกสิ่งที่ตนได้เรียนรู้ ตักตวงความรู้อย่างเต็มที่
ย้อนวันวานถึงมูลเหตุที่ทำให้คุณบังอรได้รู้จักกับฉือจี้ คุณบังอรเล่าว่า พ.ศ. 2560 ได้รู้จักกับคุณอุเทนและคุณเพ็ญนภา บุญยี่สุ่น สองสามีภรรยาจิตผู้ซึ่งเป็นอาสาฉือจี้ในคอร์สนั่งสมาธิแห่งหนึ่ง ระหว่างพูดคุยสนทนากันนั้น คุณอุเทนและคุณเพ็ญนภาอาศัยบุญสัมพันธ์อันดี แบ่งปันเรื่องราวของฉือจี้ อีกทั้งยังเชิญชวนคุณบังอรร่วมกิจกรรม “ค่ายจิตอาสาฉือจี้ระดับต้น อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2560 คุณบังอรซึ่งเดิมทีไม่เคยรู้จักฉือจี้มาก่อน ตอบตกลงร่วมกิจกรรมทันที แต่ด้วยมีธุระส่วนตัวต้องสะสาง จึงไม่สามารถร่วมกิจกรรมครบทั้ง 3 วัน เบื้องต้นจึงรับปากว่าจะร่วมกิจกรรมได้เพียง 1 วัน
▲หลังเข้าร่วม“ค่ายจิตอาสาฉือจี้ระดับต้น” อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2560
แล้ว คุณบังอร (ผู้ที่นั่งจากซ้าย 1) ก็ตัดสินใจเข้าร่วม “ชั้นเรียนอบรมกรรมการและสัตยบุรุษฉือจี้” เพื่อเป็นจิตอาสาฉือจี้
วัฒนธรรมอันดีงามของฉือจี้ที่ได้สัมผัส ทำให้คุณบังอรรู้สึกประทับใจ และเมื่อได้รับฟังการบรรยายจากจิตอาสาฉือจี้ ก็ยิ่งทำให้รู้จักฉือจี้มากยิ่งขึ้น คุณบังอรจึงตัดสินใจยกเลิกธุระส่วนตัว และร่วมกิจกรรมครบทั้ง 3 วัน หลังสิ้นสุดกิจกรรมแล้ว คุณบังอรยังตัดสินใจเข้าร่วม “ชั้นเรียนอบรมกรรมการและสัตยบุรุษฉือจี้” เพื่อเป็นจิตอาสาฉือจี้
เมื่อเข้าสู่ครอบครัวแห่งรักของฉือจี้ คุณบังอรก็เป็นหนึ่งในจิตอาสาฉือจี้เขต อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบรี โดยมักจะร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของฉือจี้ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ยากไร้ในชุมชน สัมผัสประสบการณ์ “เห็นทุกข์ รู้บุญ”อยู่เสมอ ด้วยกิจกรรมฉือจี้ที่ อ.ดำเนินสะดวกยังมีไม่มากนัก หากฉือจี้เขต อ.โพธาราม ซึ่งปกติจัดกิจกรรมบ่อยอยู่แล้ว ต้องการความช่วยเหลือ คุณบังอรก็ยินดีเดินทางไปร่วมสนับสนุนทั้งแรงกายและแรงใจ
▲คุณบังอร (ผู้ที่สวมกอดคุณยาย) ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ยากไร้ในชุมชน สัมผัสประสบการณ์ “เห็นทุกข์ รู้บุญ”
ดังนั้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จึงมักเห็นคุณบังอรในกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นชั้นเรียนอบรม หน่วยงานต่างๆมาศึกษาดูงานฉือจี้โพธาราม กิจกรรมจิตอาสาในโรงพยาบาล กิจกรรมคัดแยกขยะรีไซเคิล เป็นต้น คุณบังอรแบ่งปันความรู้สึกเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมของฉือจี้ว่า “ดิฉันเดินทางจากบ้านซึ่งอยู่ อ.ดำเนินสะดวกมายังโรงพยาบาลโพธารามเป็นระยะทาง 35 กิโลเมตร ไป-กลับก็ประมาณ 70 กิโลเมตร แต่ดิฉันก็ไม่ท้อ เพราะเรารู้สึกว่า พอเราไปร่วมกิจกรรมฉือจี้แล้วเรารู้สึกมีความสุขค่ะ”
▲ทุกวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ของแต่ละเดือน คุณบังอร (ผู้สวมแว่นตา)
เดินทางจาก อ.ดำเนินสะดวกมายังโรงพยาบาลโพธาราม เพื่อร่วมกิจกรรมคัดแยกขยะรีไซเคิล
ทุกหนแห่งล้วนคือสถานธรรม สิ่งที่พบเจอในระหว่างการการทำงานทุ่มเทเสียสละในหมู่มวลชนไม่ว่าบุคคล เรื่องราว หรือสิ่งต่าง ๆ นั้น ล้วนยากที่จะหลีกเลี่ยงกับปัญหารบกวนจิตใจ เมื่อได้มาร่วมกิจกรรม “ค่ายจตุสัมพันธ์พัฒนาอาสาสมัคร” ได้รับฟังจิตอาสาฉือจี้อาวุโสแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ทำให้คุณบังอรเข้าใจ “การให้อภัย” มากยิ่งขึ้น คุณบังอรแบ่งปันความรู้สึกว่า “เขาพูดอย่างนี้ เขาทำอย่างนี้ เพราะว่าเขาไม่รู้ เราจึงควรให้อภัยเขา พอเราให้อภัยเขา มันก็จะรู้สึกปลอดโปร่ง สมองโล่งปลอดโปร่ง จิตใจเราก็ไม่ต้องมาว้าวุ่น ไม่ต้องมาวิตกกังวลอะไรอีก”
การเข้าร่วมค่ายจตุสัมพันธ์พัฒนาอาสาสมัคร ยังสร้างความมั่นใจให้คุณบังอรก้าวเดินบนวิถีพระโพธิสัตว์ต่อไป “ดิฉันคิดว่า การที่ดิฉันมาอยู่ในฉือจี้คุณค่าชีวิตของดิฉันสูงสุดแล้ว เพราะดิฉันได้เดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง ได้เดินบนเส้นทางพระโพธิสัตว์ และตรงนี้ซึ่งเป็นแหล่งคนทำความดี ถ้าเราอยู่ตรงนี้เราก็จะได้ทำความดีตลอดไป คิดว่าไม่ไปไหนแล้วค่ะ จะอยู่ฉือจี้ค่ะ” คุณบังอร แบ่งปันความรู้สึก
▲คุณบังอรไขว่คว้าโอกาสอันดี ร่วมกิจกรรมด้วยความมุ่งมั่น
ตั้งใจรับฟังการบรรยาย คอยจดบันทึกสิ่งที่ตนได้เรียนรู้ ตักตวงความรู้อย่างเต็มที่
▲“ค่ายจตุสัมพันธ์พัฒนาอาสาสมัคร” สร้างความมั่นใจให้คุณบังอร (แถวที่ 1 คนที่ 2 จากซ้าย) ก้าวเดินบนวิถีพระโพธิสัตว์ต่อไป
เรื่อง คุณดรรชนี สุระเทพ ภาพ คุณจรรยพร เข้มแข็ง, คุณดรรชนี สุระเทพ