เยี่ยมเยียนดูแลเด็กๆสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายากจน วัดโบสถ์วรดิต
เยาวชนฉือจี้รับช่วงส่งต่อความรัก
ความเป็นมาของวัดโบสถ์วรดิตถ์ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อประมาณ 30 กว่าปีก่อน เมื่อทหารพรานได้นำเด็กๆ ประมาณ 35 คนมาฝากฝังให้เจ้าอาวาสรูปก่อนดูแล ซึ่งพ่อแม่ของพวกเขาล้วนเสียชีวิตในสงคราม จนมีสถานะเป็นเด็กกำพร้า ต่อมาเมื่อชาวเขาซึ่งมีฐานะยากจนทางภาคเหนือทราบเรื่อง จึงส่งลูกๆ มายังวัดโบสถ์ เพราะไม่เพียงพวกเขาจะได้รับการสงเคราะห์ด้านที่พักและอาหาร แต่ยังได้รับโอกาสเข้ารับการศึกษา จนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอีกด้วย ทำให้ปัจจุบัน ยังมีเด็กๆ อาศัยอยู่ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์อีกทั้งสิ้น 200 กว่าคน
▲คุณเฉินควันจัดกิจกรรมเยี่ยมเยียนดูแลเด็กวัดโบสถ์ และใช้โอกาสอันดีนี้ผลักกันโครงการเชิญชวนเยาวชนฉือจี้
ตั้งแต่ พ.ศ.2538 เป็นต้นมา อาสาสมัครฉือจี้ในเมืองไทย เริ่มยื่นมือให้การช่วยเหลือสถานเด็กกำพร้ายากจนวัดโบสถ์วรดิต ไม่ว่าจะเป็นการช่วยซ่อมหอพักเด็กชาย สอนสุขลักษณะอันดี นอกจากนั้นยังมอบทุนการศึกษาและทุนเรียนดี เพื่อเป็นกำลังใจให้กับลูกๆ วัดโบสถ์ที่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
คุณเฉินควัน เยาวชนฉือจี้รุ่นพี่ ยึดมั่นในปณิธานที่ได้กล่าวกับท่านธรรมาจารย์เมื่อครั้งที่รับรองวุฒิกรรมการฉือจี้ว่า “จะรวมคนรุ่นใหม่ สร้างกลุ่มเยาวชนฉือจี้ให้เกิดขึ้นในเมืองไทย” และนำความประทับใจที่เคยได้ร่วมกิจกรรมเยี่ยมเยียนดูแลเด็กๆวัดโบสถ์วรดิตครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2548 ซึ่งภาพเด็กๆที่ไม่มีรองเท้าใส่ ต้องเดินเท้าเปล่า บางคนก็สวมเสื้อผ้าเก่าๆขาดรุ่งริ่ง สุขอนามัยไม่ค่อยจะดีนักอยู่ในความทรงจำของคุณเฉินควันเสมอ ดังนั้น จึงจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น ไม่เพียงต้องการเข้าไปดูแลเด็กๆในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายากจนวัดโบสถ์วรดิต หากยังใช้โอกาสนี้เชิญชวนคนรุ่นใหม่ มาร่วมเป็นหนึ่งในเยาวชนฉือจี้
▲ทุกคนมานัดรวมกันที่สถานธรรมจิ้งซือ ก่อนจะออกเดินทาง คุณเฉินควันได้ชี้แจงรายละเอียดกิจกรรม และแบ่งภาระหน้าที่ให้ทุกคน
“เรื่องที่ถูกต้อง ลงมือทำก็ถูกต้องแล้ว” คุณเฉินควันชักชวนคนที่เคยร่วมกิจกรรมของเยาวชนฉือจี้มาร่วมพูดคุย ระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบของกิจกรรม ซึ่งได้สรุปเนื้อหากิจกรรมออกเป็น 4 หัวข้อหลัก ได้แก่
1.มอบสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
2.สอนสุขลักษณะในชีวิตประจำวัน ได้แก่ วิธีการแปรงฟันและการล้างมือที่ถูกต้อง
3.กำจัดเหาให้เด็กผู้หญิง
4.พาน้องๆทำความสะอาดที่พักและเก็บขยะบริเวณโดยรอบในสถานสงเคราะห์ฯ
▲“ทุกคนต่างก็มีงานทำ ทุกงานต่างก็มีคนทำ” ต่อแถวยาวจากรถส่งต่อสิ่งของต่างๆไปยังสถานที่จัดกิจกรรม
เนื่องด้วยเด็กๆที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายากจนวัดโบสถ์วรดิตจะมีจำนวนมาก ดังนั้น จำนวนอาสาสมัครที่จะร่วมเดินทางไปร่วมกิจกรรมจึงไม่เพียงพอ เมื่อมีแนวทางในการจัดกิจกรรมแล้ว คุณเฉินควันจึงเขียนเนื้อหากิจกรรมส่งไลน์ไปเชิญชวนญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง รวมถึงบุคคลในแวดวงการศึกษา ครั้งนี้ได้รับผลตอบรับดีมาก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ. นนทบุรี เดิมทีมักจะให้นักศึกษาพยาบาลมาเรียนรู้การให้บริการแก่ผู้ป่วยในกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีทุกเดือน เมื่อทราบว่าข่าวกิจกรรมครั้งนี้ ก็มีนักศึกษาตอบรับลงทะเบียนร่วมกิจกรรมจำนวน 20 คน
▲ อาสาสมัคร เยาวชนฉือจี้ และนักศึกษาช่วยกันจัดเรียงสิ่งของที่จะมอบให้เด็กๆก่อนที่กิจกรรมจะเริ่มต้นขึ้น
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำนักศึกษามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีบุคลากรหลายท่านเคยเดินทางไปเยี่ยมชมมูลนิธิพุทธฉือจี้ที่ไต้หวันอยู่หลายครั้ง และเห็นด้วยกับแนวทางการดำเนินงานของมูลนิธิ ดังนั้น เมื่อได้รับการเชิญชวนจากคุณเฉินควัน ก็ช่วยนำข่าวกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต่อไปยังนักศึกษา จากการบอกเล่าของอาจารย์ทำให้ทราบว่า นักศึกษาเหล่านี้ล้วนแต่มาร่วมกิจกรรมด้วยความสมัครใจ เพียงแค่ทราบว่าเป็นกิจกรรมให้ความรักแก่น้องๆในสถานสงเคราะห์ ก็ทำให้พวกเขาอยากจะใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียน มาร่วมเรียนรู้ประสบการณ์ที่แตกต่าง และลงทะเบียนร่วมกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น โดยครั้งนี้มีนักศึกษาร่วมกิจกรรม 21 คน รวมมีนักศึกษาพยาบาลร่วมนำความรักเข้าไปดูแลน้องๆในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายากจนวัดโบสถ์วรดิตจากสองสถาบันจำนวน 41 คน
▲ ขอบพระคุณอาสาสมัครฉือจี้คอยเคียงข้างและช่วยเหลือในทุกขั้นตอนของกิจกรรม
ถ่ายทอดความรู้ ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง สอนสุขอนามัยให้เด็กๆวัดโบสถ์
เวลา 7.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 ทุกคนมานัดรวมกันที่สถานธรรมจิ้งซือ ก่อนจะออกเดินทาง คุณเฉินควันได้ชี้แจงรายละเอียดกิจกรรม และแบ่งภาระหน้าที่ให้ทุกคน สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายากจนวัดโบสถ์วรดิตห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 80 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงจุดมุ่งหมายแล้ว “ทุกคนต่างก็มีงานทำ ทุกงานต่างก็มีคนทำ” ต่อแถวยาวจากรถส่งต่อสิ่งของต่างๆที่จะมอบให้เด็กๆ และอุปกรณ์ทำความสะอาดไปยังสถานที่จัดกิจกรรม ส่วนเด็กน้อยซึ่งห่างอกพ่อแม่มาจากแดนไกลในภาคเหนือ มาอาศัยในสถานสงเคราะห์แห่งนี้ เมื่อเห็นพี่ๆมาเยี่ยมเยียน พวกเขาต่างก็รู้สึกดีใจ ทยอยมายังสถานที่จัดกิจกรรมด้วยความปีติ
▲ พี่นักศึกษาพยาบาลขึ้นเวทีแนะนำตัวเอง ทำให้ทั้งพี่นักศึกษาและน้องๆวัดโบสถ์ได้รู้จักกันมากขึ้น
การปฏิสัมพันธ์ต่อกันในกิจกรรมช่วงแรกเหมือนคนแปลกหน้า พี่นักศึกษาก็ไม่รู้ว่าควรพูดคุยทักทายกับน้องๆอย่างไรดี น้องวัดโบสถ์ก็มีท่าทีเขินอาย พูดน้อย ก้มหน้าก้มตา แต่เมื่อได้ทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ โดยเริ่มแรกให้พี่นักศึกษาแนะนำตัวเองบนเวที จากนั้นร่วมกันทำท่าทางประกอบเพลง “ชิคเก้น แดนซ์” ซึ่งกิจกรรมที่น่ารักและสนุกสนานนี้ ทำให้ทั้งพี่นักศึกษาและน้องวัดโบสถ์ทำกิจกรรมร่วมกันด้วยความสนุกสนาน กระชับช่องว่างระหว่างกัน สร้างความกลมกลืนกันมากยิ่งขึ้น
▲เยาวชนฉือจี้และนักศึกษาพยาบาลเข้าไปในกลุ่มเด็กๆ ปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทลายกำแพงของคนไม่รู้จักกันลง
นอกจากกิจกรรมสันทนาการแล้ว นักศึกษาพยาบาลยังได้สอนสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน โดยสาธิตการแปรงฟัน การล้างมืออย่างถูกวิธี ส่วนเด็กๆก็ทำตามพี่นักศึกษาอย่างว่านอนสอนง่าย และยังให้คำสัญญาว่าจะนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน จากนั้นแบ่งกลุ่มทำความสะอาด กลุ่มแรกพาน้องๆเก็บขยะบริเวณโดยรอบสถานสงเคราะห์ฯ กลุ่มที่สองช่วยกำจัดเหาให้เด็กผู้หญิง อีกกลุ่มพาน้องๆทำความสะอาดที่พัก
▲ นักศึกษาพยาบาลถ่ายทอดความรู้ ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง นำเด็กๆเก็บขยะในบริเวณสถานสงเคราะห์
สุขลักษณะที่ไม่ค่อยจะดีนัก เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายแก่นักศึกษาไม่น้อย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องๆวัดโบสถ์ พี่นักศึกษาทุ่มเทช่วยทำความสะอาดที่พัก ล้างห้องน้ำ กำจัดเหาให้น้องๆโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่กลัวความสกปรก ไม่เพียงบอกสอนให้ความรู้ ยังปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง กำชับด้วยความรักถึงวิธีรักษาความสะอาด เพื่อหวังให้พวกเขามีสุขอนามัยที่ดีและดำเนินชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม นางสาวชุมพูนุช อินต๊ะบัน นักศึกษาพยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แบ่งปันความรู้สึกว่า “ถึงวันข้างหน้ามันอาจจะไม่เหมือนเดิม อาจจะกลับไปสกปรกเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้ให้ความรู้น้องๆ ซึ่งเป็นความรู้ที่น้องๆก็สามารถนำกลับไปใช้ได้อีก”
▲ นักศึกษาพยาบาลทุ่มเทโดยรู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่กลัวความสกปรก เป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆด้วยการลงมือทำ
▲ ในขณะที่ช่วยกำจัดเหา พี่นักศึกษาก็กำชับด้วยรักกับน้องๆถึงวิธีรักษาสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน
ผศ.ดร ดวงใจ รัตนธัญญา อาจารย์ประจำคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แบ่งปันว่า “สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเราอยู่แล้ว ที่จะปลูกฝังให้น้องๆมีลักษณะนิสัยรักษาความสะอาด สร้างสุขภาพอนามัยที่ดี สร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย”
หลังจากที่ได้ร่วมกันทำความสะอาดที่พักและบริเวณโดยรอบสถานสงเคราะห์ และช่วยเด็กผู้หญิงกำจัดเหาแล้ว ทุกคนก็ได้มารวมกันที่สถานที่จัดกิจกรรมอีกครั้ง อาสาสมัคร เยาวชนฉือจี้และนักศึกษานำเด็กๆแสดงภาษามือประกอบเพลง “ครอบครัวเดียวกัน” อันแสดงถึงว่า ทุกคนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน จากนั้น ร่วมกันอธิษฐาน ขอให้จิตใจมนุษย์ใสสะอาด สังคมสงบสุข ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง และในช่วงท้ายกิจกรรม ได้มอบสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันเด็กๆ ภายใต้การดูแลของอาสาสมัครและนักศึกษา เด็กๆทุกคนล้วนปฏิบัติตัวน่ารัก เดินแถวมารับสิ่งของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะเดินทางกลับ อาสาสมัครได้นำนักศึกษาปฏิสัมพันธ์อันดีกับเด็กๆโดยการจับมือ พูดคุยด้วยความเป็นกันเอง มอบรอยยิ้มแห่งความสุขให้กันและกัน เกิดเป็นภาพแห่งความประทับใจที่ยากจะลืมเลือนได้
▲ ส่วนเด็กๆก็ทำตามพี่นักศึกษาอย่างว่านอนสอนง่าย และยังให้คำสัญญาว่าจะนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
นางสาวชวีสา เรียนจังหวีด นักศึกษาพยาบาลจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี แบ่งปันว่า “ช่วงระยะเวลาที่เราได้มามอบความสุขให้กับเขา เรารู้สึกว่าเราดีใจ และหวังว่าเด็กๆก็คงจะมีความสุขกับสิ่งที่เรามอบให้ค่ะ ”
ช่วงเวลาของกิจกรรมอันสั้น แต่ความสุขยังยืนยาว
ภาพความทุ่มเทของอาสาสมัครและนักศึกษาพยาบาลในวันนี้ เป็นแบบอย่างที่ดีอย่างหนึ่งให้กับน้อง ๆ นายสมคิด ตัวแทนเด็กๆในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ายากจนวัดโบสถ์วรดิต แบ่งปันความรู้สึกว่า “วันใดวันนึงที่น้องๆได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ น้องๆก็จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากพี่ๆไปปฏิบัติ นำความรักไปให้ผู้อื่นและช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าเรา”
▲ นักศึกษาพยาบาลช่วยมอบสิ่งของให้เด็กๆในช่วงท้ายกิจกรรม
ครั้งนี้เป็นกิจกรรมของเยาวชนฉือจี้ครั้งแรกในปีนี้ ขอบพระคุณนักศึกษาพยาบาลที่มาร่วมกิจกรรม และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากกิจกรรมสิ้นสุดลงแล้ว นักศึกษายังได้มีการพูดคุยแบ่งปันความคิดเห็นที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ อีกทั้งยินดีเข้าร่วมกิจกรรมของเยาวชนฉือจี้และกิจกรรมการกุศลอื่นๆอีกด้วยความยินดี และขอขอบพระคุณอาสาสมัครฉือจี้ที่คอยเคียงข้างและความช่วยเหลือ จนกิจกรรมลุล่วงอย่างราบรื่น แม้ว่าการจัดกิจกรรมยังต้องมีสิ่งต่างๆให้คณะทำงานเรียนรู้อีกมากมาย ทว่า นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความสุข และหวังว่าเหล่าเยาวชนฉือจี้จะสามารถมาร่วมผลักดันงานการกุศล ให้งอกงามยิ่งขึ้นต่อไป
▲อาสาสมัครได้นำนักศึกษาปฏิสัมพันธ์อันดีกับเด็กๆโดยการจับมือ พูดคุยด้วยความเป็นกันเอง มอบรอยยิ้มแห่งความสุขให้กันและกัน เกิดเป็นความทรงจำอันดีที่ยากจะลืมเลือนได้
เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ ภาพ ศรัตนโชติ ประมวลทรัพย์ , พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี , พิสิษฎ์ หาญพงศ์เจริญ