อบรมครูบ่มเพาะบุคลากรการศึกษา พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน
ปีนี้สำนักงานคณะกรรมการและการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจรเป็นครั้งแรก โดยมีงบสนับสนุนช่วยเหลือให้กับครูที่เข้าร่วมโครงการคนละ 10,000 บาท ภายใต้หลักสูตรการเรียนรู้ต่างๆอันหลากหลาย ครูในสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศประมาณ 400,000 กว่าคน สามารถเลือกหลักสูตรอบรมได้ตามความสนใจ เพื่อนำไปพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
▲ ผู้เข้าร่วมอบรมทยอยเดินทางมาถึง ซึ่งครั้งนี้ครูจำนวน 38 คน จากโรงเรียน 18 แห่งใน 17 จังหวัด เดินทางมาร่วมหลักสูตรอบรม
อาสาสมัครฉือจี้ ดร.เรียม ศรีทอง ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เมื่อทราบถึงโครงการดังกล่าวแล้ว จึงได้นำหลักสูตร “การเสริมสร้างจิตสาธารณะ” อันเป็นรายวิชาบังคับที่ ดร.เรียมเปิดสอนในมหาวิทยาลัย ผนวกกับการเรียนการสอนวาทะจิ้งซือ 5 ขั้นตอนของฉือจี้ จัดเป็นหลักสูตร “การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเสริมสร้างจิตสาธารณะ” เสนอต่อคณะกรรมการ ซึ่งในโอกาสนี้ ทางมูลนิธิฯ รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่หลักสูตรดังกล่าว เป็นหนึ่งใน 1,400 กว่าหลักสูตรที่ผ่านการพิจารณา และได้รับความไว้วางใจสำนักงานพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐานในการเปิดหลักสูตรอบรม ดร.เรียม แบ่งปันความรู้สึกว่า “กระบวนการการอบรมครั้งนี้ เราก็นำแนวทางมาจากความคิดของมูลนิธิพุทธฉือจี้ ว่าต้องมีการปฏิบัติการ เพราะเราทราบว่า เมื่อใดที่คุณครูได้สัมผัสความรู้สึกที่ดีงาม พวกเขาก็อยากจะทำความดี ”
▲ อาสาสมัครฉือจี้แสดงวิถีชา วิถีดอกไม้ และภาษามือประกอบเพลง เพื่อสื่อถึงวัฒนธรรมอันดีงามของชาวฉือจี้
โดยครั้งนี้มีครูลงทะเบียนเข้าร่วมอบรม 38 คน จากโรงเรียน 21 แห่ง ใน 17 จังหวัด ซึ่งมีผู้เข้าร่วมอบรมจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้เข้าร่วมอบรมที่เดินทางมาไกลที่สุดในผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด คิดเป็นระยะทางประมาณ 780 กิโลเมตร หรือหากนั่งรถก็ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง
รับชมเรื่องราวของมูลนิธิพุทธฉือจี้ เรียนรู้การก้าวผ่านอุปสรรคด้วยหัวใจอันแข็งแกร่ง
ครูผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ล้วนได้มารู้จักกับมูลนิธิพุทธฉือจี้เป็นครั้งแรก ดร.เรียม ศรีทอง จึงจัดเตรียมเอกสาร สื่อประกอบการอบรม รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นพิธีกรด้วยความตั้งใจ หวังให้ผู้เข้าร่วมอบรมเข้าใจถึงการเรียนการสอนวาทะจิ้งซือได้ในระยะเวลาอันสั้น การอบรมแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม 2560 เป็นการให้ความรู้ในภาคทฤษฎีในด้านต่างๆ ได้แก่ ความมีจิตอาสา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเรียนการสอนวาทะจิ้งซือและการบ่มเพาะคุณธรรม เป็นต้น ช่วงที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม 2560 เป็นกิจกรรมภาคปฏิบัติ ได้แก่ การเรียนรู้งานอาสาสมัครในโรงพยาบาล การเยี่ยมเยียนผู้ยากไร้ และสรุปกิจกรรมรอบรม เป็นต้น
▲ดร.เรียม ศรีทอง มุ่งมั่นผลักดันชั้นเรียนวาทะจิ้งซือ เพื่อนำแนวคิดการเรียนการสอนอันดีงามนี้ลงสู่โรงเรียนต่าง ๆ
การอบรมช่วงที่ 1 ในวันแรกนั้น อาสาสมัครได้เปิดวีซีอาร์ แบ่งปันเรื่องราวของ “หม่าเหวินจ้ง” ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมต่างก็รู้สึกประทับใจ เพราะแม้ว่าหม่าเหวินจ้งจะเป็นคนพิการ แต่เขาก็เป็นครูที่มีจิตใจที่มุ่งมั่น และยืนหยัดก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ เพื่อสร้างโรงเรียนให้การศึกษาแก่เด็กๆ หลังจากรับชมวีซีอาร์แล้ว คุณสงัด หาริกัน ครูจากโรงเรียนทรัพย์อุดมวิทยา จ.อุดรธานี แบ่งปันด้วยความซาบซึ้งใจว่า “เรื่องของหม่าเหวินจ้งเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากๆครับ ทำให้หวนนึกถึงตอนที่ตนปั่นจักรยานบนเส้นทางที่ยากลำบาก เพื่อไปสอนเด็กๆตามบ้านโดยไม่คิดค่าเรียน และโดยเฉพาะในปัจจุบันครูที่ดี ก็ยิ่งมีมิใช่จะมากนัก”
▲ คุณสุชน แซ่เฮง แบ่งปันวีซีอาร์เรื่องราวของหม่าเหวินจ้ง ซึ่งแม้ว่าเขาจะเป็นครูที่มีร่างกายพิการ แต่เขามีปณิธานและความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ ควรค่าต่อการเรียนรู้และชื่นชม
เรียนรู้การหวงแหนทรัพยากร รู้รักษ์พิทักษ์โลก
การอบรมวันที่สอง หลังจากรับชมวีซีอาร์ “วิถีชีวิตบนแผ่นดินแห้งแล้งของชาวกานซู่” อาสาสมัครยังได้ให้ผู้เข้าร่วมอบรมสัมผัสถึงความลำบากของการหาบน้ำ เพื่อเข้าใจถึงการหวงแหนทรัยากรธรรมชาติ ต้องใช้น้ำทุกหยดให้เกิดประโยขน์มากที่สุด หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมอบรมได้แบ่งปันบนเวที ถึงการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติด้วยวิธีการต่างๆ เช่น นำน้ำที่ใช้แล้วมาถูพื้น ล้างชักโครก รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ คุณพันราศี ประชาชาติ ครูจากโรงเรียนเอราวัณ จ.เลย แบ่งปันความรู้สึกว่า “รู้สึกประทับใจที่ได้มาร่วมหลักสูตรอบรมนี้ ทำให้ทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว ยังมีรูปแบบการเรียนการสอนที่มากมายและหลากหลาย และจะนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้เหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้ในการสอนนักเรียน”
▲ครูสงัด หาริกัน (จากซ้าย 2) จากจ. อุดรธานี แบ่งปันว่า “เรื่องของหม่าเหวินจ้งเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากๆ ทำให้หวนนึกถึงตอนที่ตนปั่นจักรยานบนเส้นทางที่ยากลำบาก เพื่อไปสอนเด็กๆตามบ้าน”
การเรียนการสอนวาทะจิ้งซือ นอกจากจะทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมเข้าใจถึงการใช้ปัญญาและธรรมะประยุกต์ในการสอนแล้ว อาสาสมัครยังนำผู้เข้าร่วมอบรมแสดงภาษาประกอบเพลง “ครอบครัวเดียวกัน”พร้อมทั้งอธิบายความหมาย ผู้เข้าร่วมอบรมทุกคนต่างก็รู้สึกสนุกสนานและชื่นชอบ และจำเนื้อร้องเพลงภาษามือได้เป็นอย่างดี
▲อาสาสมัครพี่เลี้ยงดูแลคุณครูอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณครูเรียนรู้อย่างอุ่นใจ
กิจกรรมอบรม 2 วัน ทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้เห็นถึงเอกลักษณ์อันแตกต่างของมูลนิธิพุทธฉือจี้ จากที่ผู้เข้าร่วมอบรมได้รู้จักฉือจี้เป็นครั้งแรกในครั้งนี้ ทางมูลนิธิก็จะผูกบุญสัมพันธ์อันดีกับผู้เข้าร่วมอบรมอย่างต่อเนื่องในโอกาสต่อๆไป เพื่อหวังให้เมล็ดพันธุ์การศึกษาอันดีงามแตกหน่อออกใบ ขยายกว้างไกลออกไป และในอนาคตหากมีโอกาสอันดี อาจจะสามารถก่อตั้งสมาคมครูฉือจี้ ร่วมสร้างครูผู้มีคุณภาพให้เป็นที่แพร่หลายได้ต่อไป
▲หลังจากรับชมวีซีอาร์ “วิถีชีวิตบนแผ่นดินแห้งแล้งของชาวกานซู่” อาสาสมัครให้ผู้เข้าร่วมอบรมสัมผัสถึงความลำบากของการหาบน้ำ
สำหรับการอบรมช่วงที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 12-13 สิงหาคม 2560 เป็นกิจกรรมภาคปฏิบัติ ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้การเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาล การเยี่ยมเยียนและดูแลครอบครัวผู้ยากไร้ รวมทั้งสรุปผลการอบรมในตอนท้ายกิจกรรม ซึ่งจะได้นำมาแบ่งปันในสัปดาห์ต่อไป
เรื่อง พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี , ดรรชนี สุระเทพ ภาพ ไช่ชิวหลิง