มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย จัดกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว จ.น่าน ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
อันมีมูลเหตุจากเหตุอุทกภัย จ.น่าน ปีที่ผ่านมา
ฉือจี้ได้เดินทางไปมอบความช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนั้นทำให้จิตอาสาทราบว่า มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากมีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก โดยเฉพาะเมื่อถึงฤดูหนาว อุณหภูมิยิ่งลดต่ำลงเรื่อยๆ เช่นนี้ ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยของ อ.เมืองน่าน จ.น่าน ให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ปีนี้ฉือจี้จึงจัดกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวขึ้น ในระหว่าง 30 พ.ย.-1 ธ.ค. 2562 ทั้งหมด 2 วัน 3 รอบ โดยมีผู้ได้รับความช่วยเหลือจาก 2 ตำบล 27 หมู่บ้าน รวม 1,041 ครอบครัว
จิตอาสาช่วยกันจัดสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ด้วยต้องการกำลังคนจำนวนมาก จิตอาสาจากกรุงเทพฯ 27 คน ซึ่งนำโดยคุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานมูลนิธิฯ เริ่มออกเดินทางโดยรถบัสตั้งแต่ 6.00 น.ของวันที่ 29 พฤศจิกายน นอกจากนั้นยังมีจิตอาสาจากจังหวัดราชบุรี 8 คน จิตอาสาจากพุทธมณฑล 10 คน จิตอาสาจากจังหวัดพิษณุโลก 8 คน เป็นต้น ล้วนพร้อมใจกันเดินทางจากสถานที่ต่างๆ เพื่อไปร่วมจัดเตรียมกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาว จ.น่าน
จิตอาสาฉือจี้จากกรุงเทพฯ เดินทางถึง จ.น่าน ประมาณ 21.00 น. สำหรับการจัดเตรียมสถานที่หรือสิ่งของต่างๆ นั้น คุณนฤมล คุณธร และคุณจารุวรรณ หีบท่าไม้ ซึ่งเดินทางล่วงหน้าถึง จ.น่าน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อจัดชั้นเรียนอบรมจิตอาสาและเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ยากไร้ ได้ช่วยระดมจิตอาสาท้องถิ่นมาช่วยจัดเตรียมงานทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
1
บอกเล่าเรื่องราวฉือจี้ ในพิธีมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาว
กิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาวเริ่ม 9.00 น.จิตอาสาฉือจี้จึงเดินทางไปเตรียมความพร้อมกันตั้งแต่ 7.30 น. ส่วนคุณตาคุณยายมาถึงสถานที่จัดกิจกรรมเช้ายิ่งกว่าจิตอาสาเสียอีก ในส่วนบรรยากาศของกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ต่างจากกิจกรรมฉือจี้สองครั้งก่อน คือชาวบ้านยังมีท่าทีเขินอาย น่ารัก และใบหน้าเปี่ยมไปด้วยการรอคอย พวกเขาแบ่งปันความเห็นว่า แนวคิดของฉือจี้สอนให้พวกเขาเรียนรู้การปฏิบัติตนให้มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง สัจจะ สมถะ และการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของจิตอาสาฉือจี้ ทำให้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น จากการพูดคุยมีชาวบ้านคนหนึ่งพูดคุยกับคุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานมูลนิธิฯว่า ในทุกๆวันเขาต่างก็ดูภาพถ่ายรวมกับคุณสุกัญญา และเฝ้าคอยการเดินทางมาของคุณสุกัญญาและจิตอาสาฉือจี้อย่างใจจดใจจ่อ
จิตอาสาฉือจี้จากจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเดิมทีเป็นพยาบาล ร่วมตั้งหน่วยปฐมพยาบาลให้บริการชาวบ้าน
จิตอาสาฉือจี้บริการตัดเล็บให้ผู้สูงอายุ
เพราะมีจิตอาสาท้องถิ่นช่วยจัดเตรียมสถานที่ก่อนกิจกรรมจะเริ่มต้น 1 วัน ฉะนั้นในวันจัดกิจกรรมจริง จิตอาสาฉือจี้จึงแทบไม่ต้องจัดเตรียมอะไรเพิ่มเติมมากมาย ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านทยอยเดินทางมาถึง โดยไม่ลืมหยิบคูปองรับสิ่งของ ที่ฉือจี้เคยมอบให้ตั้งแต่เดือนกันยายนติดมือมาด้วย บรรยากาศของกิจกรรมเต็มไปด้วยความปีติยินดี ราวกับงานฉลองขึ้นปีใหม่หรือตรุษจีน เพราะใบหน้าของทุกคนเปี่ยมด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ต่างเฝ้ารอคอยกับกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาวในครั้งนี้
จิตอาสาฉือจี้มอบอ้อมกอดอันอบอุ่นให้ชาวบ้าน กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
เวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว ในพิธีมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาวนั้น คุณสุชน แซ่เฮง ถือโอกาสอันดีแบ่งปันความเป็นมาของผ้าห่มรักษ์โลกฉือจี้แก่ชาวบ้านว่า ผ้าห่มรักษ์โลกฉือจี้รีไซเคิลมาจากขวดพลาสติก เพื่อนำไปช่วยเหลือภัยพิบัติทั่วโลก ทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวฉือจี้ 53 ปีที่ผ่านมา ได้แตกกิ่งก้านสาขาไปยัง 74 ประเทศ และผ้าห่มรักษ์โลกฉือจี้ก็ถูกส่งไปช่วยเหลือภัยพิบัติต่างๆใน 30 กว่าประเทศ มอบความอบอุ่นกายใจแก่ผู้ประสบภัย 50,000 กว่าคน
ชาวบ้านต่างก็ร่วมบริจาคน้ำใจตน เพื่อให้ฉือจี้นำไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีบุญ เพราะแม้ว่าบางครั้งจะมีปริมาณน้ำฝนมากจนก่อให้เกิดอุทกภัย แต่ประเทศไทยก็ไม่มีภัยร้ายแรงจากพายุ หรือแผ่นดินไหวเฉกเช่นอีกหลายประเทศ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คนไทยจะรู้จัก “รู้บุญ ถนอมบุญ และหมั่นสร้างบุญ” ยิ่งๆ ขึ้นไป และหวังว่าบุญสัมพันธ์ที่นำจิตอาสาฉือจี้ให้มาช่วยเหลือประชาชนชาว จ.น่านในวันนี้ จะเป็นเหตุนำพาให้ชาวน่านนำความรักของฉือจี้ ขยายไปทั่วทั้งประเทศไทยในอนาคต
คุณสุกัญญากล่าวว่า จากการช่วยเหลืออุทกภัย และขยายความช่วยเหลือสู่การซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้านในปีที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่า “น่าน” หนึ่งจังหวัดในภาคเหนือ ซึ่งเมื่อถึงช่วงฤดูหนาว มักจะมีอากาศหนาวเย็นกว่าที่อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ฉือจี้จึงจัดกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาวต่อเนื่องสองปี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผ้าห่มรักษ์โลก สิ่งของต่างๆ ที่ฉือจี้มอบให้นั้น จะสามารถสร้างความอบอุ่นให้ทั้งกายและใจของทุกคน และขอบคุณผู้ใจบุญทุกคนที่บริจาคน้ำใจตน ทำให้จิตอาสาฉือจี้มีโอกาสนำความรักอันอบอุ่นมามอบให้พี่น้องชาวน่าน
ชาวบ้านนำกระปุกคืนสู่เหย้า บริจาคน้ำใจตนให้ฉือจี้นำไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ฉือจี้จัดกิจกรรมแนะนำฉือจี้และชั้นเรียนอบรมกรรมการ ให้จิตอาสาท้องถิ่นที่สนใจทุกๆสองเดือน ดังนั้น ทุกๆครั้งที่ฉือจี้มาจัดกิจกรรมใน จ.น่าน ชาวบ้านมักจะนำเงินที่หยอดสะสมในกระปุกออมบุญ มาบริจาคให้ฉือจี้เป็นจำนวนมาก จิตอาสาฉือจี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีพี่น้องชาวน่านมาร่วมทำจิตอาสาฉือจี้มากมายในเร็ววัน เพื่อนำความรักขยายไปยังทุกพื้นที่ในประเทศไทย ร่วมเป็นประจักษ์พยานนำความรักโอบอุ้มโลกใบนี้ไปกับจิตอาสาฉือจี้
2
จิตอาสาท้องถิ่นร่วมแรงร่วมใจ ทุ่มเทช่วยเหลือคนบ้านเดียวกัน
ครั้งนี้ฉือจี้มอบผ้าห่ม ข้าวสาร(ข้าวเหนียว) น้ำมันพืช ซีอิ๊ว ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน มากน้อยแตกต่างกันตามจำนวนสมาชิกของแต่ละครอบครัว หลังจากฉือจี้นำทุกคนอธิษฐานแล้ว จึงเริ่มมอบสิ่งของให้ชาวบ้าน จากการลงพื้นที่สำรวจภัยหนาวและเตรียมงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทำให้ขั้นตอนการมอบสิ่งของเป็นไปอย่างราบรื่นเรียบร้อย โดยเฉพาะการร่วมแรงร่วมใจของจิตอาสาท้องถิ่นตั้งแต่การจัดเตรียมสิ่งของล็อตใหญ่ ซึ่งต้องการกำลังคนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งงานช่วยแจกของที่จำเป็นต้องการจิตอาสามาช่วยผลักดันให้กิจกรรมราบรื่น ซึ่งจิตอาสาท้องถิ่นเหล่านี้ต่างยินดีมาช่วยชาวบ้าน หรือคุณตาคุณยายแบกขนข้าวสาร น้ำมันพืช ซีอิ๊ว ฯลฯ พาเดินออกจากสถานที่จัดกิจกรรม หากไม่มีการช่วยเหลือของจิตอาสาท้องถิ่น เกรงว่าอาจจะต้องระดมกำลังคนจากกรุงเทพฯนั่งรถบัสหลายคันมาช่วยกิจกรรมเลยทีเดียว
คุณเจริญตา (ซ้าย 1 ) ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานจิตอาสาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่มีความสุข
จากการพูดคุยกับคุณเจริญตา จิตอาสาท้องถิ่น ทำให้ทราบเหตุผลที่เธอยินดีมาร่วมกิจกรรม คุณเจริญตาเล่าว่า หากฉือจี้โทรฯ ติดต่อขอให้มาร่วมกิจกรรม เธอก็ยินดีวางภาระงานส่วนตัวไว้ก่อน แม้ว่าปกติจะไม่ใช่คนชอบก่อกรรมทำชั่ว แต่เธอก็ไม่ได้ทำความดีสร้างบุญใดๆ เช่นกัน แม้ว่าในใจลึกๆ จะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นก็ตาม เนื่องจากไม่มีแนวทาง จึงทำให้ไม่สามารถก้าวเดินตามปณิธานของตนต่อไปได้
เมื่อฉือจี้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน แบ่งปันเรื่องราวอันดีงามต่างๆ ทำให้เธอเข้าใจในหลักธรรมะมากยิ่งขึ้น รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น และเธอก็เชื่อมั่นว่า ชาวบ้านล้วนยินดีมาร่วมเป็นจิตอาสาเช่นกัน เพราะฉือจี้ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านมาแล้วมากมาย แล้วเหตุใดจะตอบแทนฉือจี้ไม่ได้ และเธอก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น การมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว จ.น่าน ทั้งสามรอบ จึงจะเห็นคุณเจริญตาทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานจิตอาสา ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่มีความสุข คุณเจริญตา แบ่งปันความรู้สึกว่า “ไม่รู้สึกเหนื่อยนะคะ เพราะว่าเราเต็มใจมาทำ อะไรก็ตามที่ทำแล้วก็มีความสุข มันจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ”
คุณประนอม (ขวา 4) ช่วยเหลือชาวบ้านด้วยความปีติ
คุณประนอม จิตอาสาท้องถิ่น เล่าว่า เธอรอคอยการเดินทางมาของฉือจี้ เพราะรู้สึกได้ถึงความรักของจิตอาสาฉือจี้ เธอยังเล่าว่า เมื่อก่อนหากพบเจอผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามถนนหนทาง แม้ว่าเธอจะรักพี่น้องเพื่อนบ้านเพื่อนฝูงในหมู่บ้านเพียงใด แต่เธอก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามหรือให้ความช่วยเหลือ แต่หลังจากได้รู้จักและเรียนรู้จากจิตอาสาฉือจี้ ทำให้เธอรู้จักแสดงความห่วงใยดูแลคนในหมู่บ้าน เช่นในกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว จ.น่าน ในครั้งนี้ เธอก็ลงชื่อร่วมเป็นจิตอาสาโดยไม่ลังเลใจ คุณประนอมแบ่งปันว่า “เมื่อทราบว่าฉือจี้จะมาจัดกิจกรรมเราก็รู้สึกดีใจมากเลยค่ะ เพราะว่าทำให้เรามีโอกาสทำงานจิตอาสา ดังนั้น เราจึงเตรียมพร้อมเพื่อช่วยงานฉือจี้อยู่ตลอดเวลาค่ะ ”
3
ดูแลพี่น้องด้วยใจจริง กายใจอบอุ่น ซาบซึ้งกันและกัน
นอกจากการมอบสิ่งของในสถานที่จัดกิจกรรมแล้ว จิตอาสาฉือจี้ยังเดินทางไปเยี่ยมบ้านชาวบ้านด้วยความใส่ใจ คุณยายเรือนทอง ซึ่งครอบครัวมีอาชีพขายสิ่งของรีไซเคิล เล่าว่า รู้จักฉือจี้มาเป็นเวลาสองปีแล้ว จากการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติจากอุทกภัย ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้านของฉือจี้ ทำให้ชาวบ้านมีน้ำสะอาดใช้ นำมาซึ่งความสะดวกสบายมากมาย คุณยายเรือนทอง แบ่งปันว่า “ฉือจี้มาแจกของช่วยภัยหนาวปีที่แล้ว ปีนี้ก็มาช่วยอีก แจกสิ่งของเยอะแยะ สามารถใช้ได้ประมาณสองเดือน ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มากเลยค่ะ ”
คุณยายเรือนทองชูนิ้วหัวแม่มือ เพื่อสื่อความหมายว่า “ขอบคุณ” เพราะสิ่งของต่างๆที่ฉือจี้มอบให้ ลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างมาก
คุณยายเรือนทองยังแสดงความเห็นว่า แนวคิดหรือคำสอนของฉือจี้มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก เช่น การปฏิบัติตนให้เพียบพร้อมด้วย “ความซื่อสัตย์ ซื่อตรง สัจจะ สมถะ” และแนวคิดการสร้างบุญผ่านกระปุกออมบุญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนสามารถทำได้จริง
ผ้าห่มรักษ์โลกของฉือจี้ทำให้คุณตาอบอุ่น และการดูแลด้วยความห่วงใยของฉือจี้ ทำให้คุณตารู้สึกอุ่นใจ
คุณตาศรี วัย 87 ปี ชายชราที่ชอบอาศัยอยู่คนเดียว เดิมทีคุณตามีลูกชาย 3 คน ซึ่งลูกทั้งสามต่างก็มีแยกย้ายไปมีครอบครัวของตนเอง แต่ว่ายังคงดูแลพ่อเป็นอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งทำอาหารส่งข้าวส่งน้ำทั้งสามมื้อ พาพ่อไปหาหมอ ช่วยปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ครั้งนี้อบอุ่นมากขึ้น เพราะมีจิตอาสาฉือจี้มาเยี่ยมถึงที่บ้าน พูดคุยสอบถามทุกข์ด้วยความห่วงใย ทั้งยังกำชับคุณตาว่า “ถ้าอากาศหนาว คุณตาก็เอาผ้าห่มฉือจี้มาห่มนะคะ” คุณตาก็รับปาก และอวยพรลูกหลานจิตอาสาฉือจี้ก่อนเดินทางกลับ
จิตอาสาฉือจี้สวมกอดให้กำลังใจคุณนิดอนงค์
คุณนิดอนงค์ ซึ่งมีรายได้จากเบี้ยผู้พิการจากรัฐ แม้ว่าแขนขาเธอจะพิการตั้งแต่กำเนิด แขนทั้งสองไม่สามารถใช้การได้ แต่เธอไม่เคยย่อท้อ พยายามช่วยเหลือพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด ฝึกใช้สองเท้าแต่งหน้า กินข้าว ทำงานบ้าน แม้กระทั่งเขียนหนังสือก็สามารถทำได้ ความสู้ชีวิตของคุณนิดอนงค์ สร้างกำลังใจให้จิตอาสาได้ไม่น้อย จิตอาสาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งของที่ฉือจี้มอบให้จะทำให้เธอก้าวผ่านฤดูหนาวได้อย่างอุ่นใจ และหวังเช่นกันว่า อ้อมกอดที่จิตอาสาฉือจี้มอบให้ จะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นถึงก้นบึ้งหัวใจ
ชาวบ้านถือสิ่งของกลับบ้านอย่างมีความสุข
กิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาวสำเร็จลุล่วงอย่างราบรื่น แม้ว่าในระหว่างมอบสิ่งของให้ชาวบ้านมีจุดให้ปรับปรุงอยู่บ้าน เนื่องจากจิตอาสาท้องถิ่นหลายคน ซึ่งมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง กำลังวังชาดี ช่วยแบกข้าวสารซ้อนกันทีละหลายถุง และเดินลิ่วออกไปอย่างรวดเร็ว จนคุณตาคุณยายตามไม่ทัน แต่ข้อบกพร่องเล็กน้อยเหล่านี้ เทียบไม่ได้กับความปิติสุขที่ได้จากการร่วมกิจกรรม เพราะเห็นได้จากการแบ่งปันความรู้สึกหลังสิ้นสุดกิจกรรม จิตอาสาท้องถิ่นต่างก็ขอบคุณที่ฉือจี้มาช่วยเหลือหมู่บ้านของพวกเขา มอบความรักความอบอุ่นพี่น้องชาวน่าน
คุณสุชน แซ่เฮง เป็นตัวแทนจิตอาสาฉือจี้กล่าวขอบคุณจิตอาสาทุกคนที่มาช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดกิจกรรม คุณสุชนยังกล่าวด้วยความขำขันว่า หากไม่มีจิตอาสาท้องถิ่นมาช่วยเหลือ จิตอาสาฉือจี้อาจจะต้องทำงานหนักจนป่วยเข้าโรงพยาบาลได้ จากการร่วมกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือภัยหนาว จ.น่านในครั้งนี้ ทุกคนต่างก็มีความสุข พี่น้องชาวน่านต่างสัมผัสได้ถึงความรักของฉือจี้ และทำให้ทราบได้ว่าพวกเขาต่างก็เห็นด้วยในแนวคิด “ออมเงินน้อย สร้างบุญใหญ่”ในกระปุกออมบุญของ ดั่งเพลง “โลกนี้มีความรัก” ที่เขียนไว้ว่า “ยินดีมอบไหล่ให้ผู้อื่นพักพิง” ซึ่งพี่น้องชาวน่านก็เป็นดั่งเนื้อเพลงดังกล่าว
เรื่อง อู๋สูเจิน แปล ดรรชนี สุระเทพ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี ,ชาง เอ็น ลู ,ดรรชนี สุระเทพ