1 คน 1 ความดี สืบสานความดีองค์ภูมิพล
บุญสัมพันธ์อันดีเมื่อ 5 ปีก่อน นำพามาสู่ความสำเร็จของการสร้างสถานธรรมจิ้งซือ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ในวันนี้ แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่อาสาสมัครฉือจี้ก็สามารถทำได้ และบนเส้นทางอันนี้ขรุขระที่ก้าวเดิน ยังก่อเกิดผู้มีพระคุณและพระโพธิสัตว์มากมาย ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูล ผลักดันภารกิจที่เหมือนจะไม่สามารถทำได้ ให้สำเร็จลุล่วงได้ในที่สุด
▲คุณกมลรัตน์ แซ่กวอ รีบเดินทางจากกทม.มายังสถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง ล่วงหน้าหลายวัน เมื่อลงจากรถแล้ว ยังไม่ได้แวะดื่มน้ำสักแก้ว ก็ลงมือนำดอกไม้ประดับตกแต่งสถานที่ทันที
23 ธันวาคม 2560 ฤกษ์งามยามดีเปิดใช้สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แขกผู้มีเกียรติมากมาย ทั้งอาสาสมัครฉือจี้จากไต้หวัน อาสาสมัครฉือจี้แต่ละเขตจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งนำโดยคุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย และคุณเฉินอวี่หง รองประธานฯ รวมไปถึงจิตอาสาและชาวบ้านในท้องถิ่น ทุกคนเดินทางมาร่วมยินดีกันถ้วนหน้า ร่วมเป็นประจักษ์พยานในภาพประวัติศาสตร์ครั้งนี้ หลายท่านเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมาช่วยจัดเตรียมสถานที่ก่อนล่วงหน้าหลายวัน แม้ว่าสภาพอากาศภาคเหนือของไทยในช่วงเวลาดังกล่าว จะเหน็บหนาวทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของอาสาสมัครฉือจี้ ทำให้เกิดบรรยากาศแห่งความอบอุ่น อันน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก
▲อาสาสมัครฉือจี้จากกทม. ช่วยกันปั้นลูกชิ้นเผือกเจ
ข้ามขุนเขาจากถิ่นไกล ส่งความรักและห่วงใยในพื้นที่
เพื่อความเป็นสิริมงคล และสอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย อาสาสมัครจึงนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป มาสวดมนต์อวยพรในโอกาสเปิดใช้สถานธรรมครั้งนี้ โดยวันและเวลาเปิดใช้สถานธรรมก็ยังแฝงด้วยความหมายอันดี ดังคุณเมตตา ชิว แบ่งปันว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 แต่เราไม่สามารถจัดพิธีเปิดใช้สถานธรรมในวันที่ 13 ตุลาคมได้ จึงเลื่อนเป็นวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 10.13 น. โดย 1013 ในภาษาจีนออกเสียงว่า “อี หลิง อี ซาน” ซึ่งออกเสียงคล้ายกับคำท่านธรรมาจารย์กล่าวว่า “อี เหริน อี ซ่าน เยวี่ยน หลี จาย น่าน ” (一人一善 遠離災難)มีความหมายว่า “1 คน 1 ความดี” ห่างไกลภัยพิบัติ ส่วนในที่นี้คือ “อี เหริน อี ซ่าน เหยี่ยน ซวี่ กว๋อ หวาง เตอะ อ้าย (一人一善 延續國王的愛)หมายถึง “1 คน 1 ความดี สืบสานความรักของในหลวง ร.9”
▲คุณเหยาเสี่ยวลี่ (ซ้าย2) แบ่งปันประโยชน์และวีธีทำ “ซุปพุทราจีนน้ำขิง”แก่อาสาสมัครฉือจี้ อ.โพธาราม จ.ราชบุรีด้วยภาษาจีน โดยมีคุณโสภิดา ห่วงรักษ์(ซ้าย 1) ช่วยแปลเป็นภาษาไทย
เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว แขกผู้มีเกียรติร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดสถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จากนั้น คุณเฉินอวี่หง รองประธานมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย กล่าวอวยพรและให้กำลังใจเนื่องในพิธีเปิดใช้สถานธรรมฉือจี้ ต่อมา นักเรียนโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ได้แสดงภาษามือประกอบพระสูตร “อมิตตาสารัตถสูตร” และภาษามือประกอบเพลง “โลกนี้มีความรัก”การแสดงภาษามืออันพร้อมเพรียงและเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เห็นถึงบรรยากาศแห่งความสง่างามในพิธีเปิดสถานธรรมฉือจี้
▲คุณไกรวุฒิ วรรณวงศ์สอน (กลาง) แบ่งปันการจัดสวนขนาดจิ้ว โดยมีคุณลาวัลย์ วลึค (ขวา 1) คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ
▲อาสาสมัครฉือจี้จากสมาคมฉือจี้ไต้หวัน ได้แก่ คุณกานอี้หวง(ซ้าย 1) คุณอู๋ฝูซู่(ซ้าย 2) คุณหลิวเฟินเจวียน(ซ้าย 3) คุณหลิวยวิ๋นเชว่(ขวา 1) คุณล่ายสูเจิน(ขวา 2) คุณเฉินฮุ่ยเหม่ย(ขวา 3) คุณเผิงยวี่หลิง (ขวา 4) เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในพิธีเปิดใช้สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง
ไม่หวั่นหนทางไกล มุ่งมั่นในปณิธาน ลุล่วงในภารกิจ
มูลเหตุของสถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนั้นคุณหวงหย่าฉุน เชิญชวนคุณเมตตา ชิว ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายอบรมอาสาสมัครฉือจี้ในขณะนั้น ให้ช่วยจัดกิจกรรมอบรมอาสาสมัคร ผู้ปกครอง รวมไปถึงชั้นเรียนคุณแม่ใจดี (ต้าอ้ายมามา) เพื่อบ่มเพาะบุคลากรเหล่านี้ช่วยกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน หลังจากตอบรับคำเชิญแล้ว คุณเมตตา จึงต้องเดินทางไปกลับอยู่จากกรุงเทพไปยัง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลายครั้ง หลายรอบ เป็นระยะทางพันกว่ากิโลเมตร หลังจากนั้น 2 ปี คุณเมตตารู้สึกว่าการจัดชั้นเรียนอบรมยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ อ. ฝาง จ.เชียงใหม่
▲อาสาสมัครฉือจี้ร่วมสวด “สัทธรรมปุณฑรีกสูตร” ด้วยความศรัทธา
ด้วยมิใช่คนในพื้นที่ ฉะนั้น กว่าจะก่อสร้างสถานธรรมให้แล้วเสร็จจึงมิใช่เรื่องง่ายนัก ต้องพานพบกับความลำบากนานาประการ ต้องมานะบากบั่นกับหยาดเหงื่อและหยดน้ำตามากมาย แต่เพราะรักในคนที่ท่านธรรมาจารย์รัก คุณเมตตาจึงยินดีทำในสิ่งที่ท่านธรรมาจารย์ทำและเป็นลูกศิษย์ที่ดี วันนี้ชีวิตของคุณเมตตาสมบูรณ์พูนพร้อมแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานธรรมฉือจี้แห่งนี้ จะเป็นสถานที่แบ่งปันธรรมะได้มากขึ้น จัดชั้นเรียนคุณแม่ใจดี เชิญชวนพระโพธิสัตว์ร่วมทำประโยชน์ต่อโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ และสถานธรรมแห่งนี้ยังเปรียบเป็น “บ้าน” ของทุกคน ”
▲อาสาสมัครฉือจี้มอบสิ่งของที่ระลึกให้ผู้รับเหมาก่อสร้างและคนงาน เพื่อขอบคุณในความทุ่มเทที่พวกเขาช่วยก่อสร้างสถานธรรมให้แล้วเสร็จด้วยความซื่อสัตย์ เที่ยงตรง
ไม่ลืมพระคุณคุณ ขอบคุณคุณที่เคียงข้าง
เพื่อขอบคุณเจ้าของยุ้งข้าวเดิม ที่อาสาสมัครฉือจี้นำไม้ของยุ้งข้าวมาสร้างเป็นสถานธรรมฉือจี้ตั้งแต่แรกเริ่ม ขอบคุณในความทุ่มเทของผู้รับเหมาก่อสร้าง คนงาน ที่ช่วยก่อสร้างสถานธรรมให้แล้วเสร็จด้วยความซื่อสัตย์ เที่ยงตรง ขอบคุณเหล่าทหารคณะชาติผู้สูงวัย ทำให้อาสาสมัครฉือจี้มีโอกาสไถหว่านนาบุญที่เชียงใหม่ และขอขอบพระคุณในความช่วยเหลือของผู้มีจิตศรัทธาจากทุกสารทิศ ในโอกาสนี้ อาสาสมัครฉือจี้จึงเตรียมปิ่นโตสเตนเลสไร้สนิมอย่างดี มอบเป็นของที่ระลึกกับทุกคน เพื่อสื่อถึงคำขอบคุณว่า “ดีจังที่มีคุณ”
▲อาสาสมัครฉือจี้เข้าแถวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ โดยคุณปรีชา ศุภรเชาว์ ช่วยพยุงคุณตาจากสถานสงเคราะห์คนชราบ้านใหม่หนองบัว ที่เดินทางมาร่วมพิธีเปิดใช้สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง
ในพิธีเปิดสถานธรรมฉือจี้ อาสาสมัครฉือจี้คุณเติ้งเจี๋ยซิน ยังได้แสดงภาษามือประกอบเพลง “อิงภูผา” (ผู้อยู่เบื้องหลัง) ซึ่งมีท่อนหนึ่งในเพลงกล่าวว่า “ฉันได้ยินเสียงคุณ เพราะคุณอยู่ในหัวใจ ระยะทางจะไกลเพียงใด ฉันไม่หวาดหวั่น คุณไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำใด ขอให้ฉันได้จับมือคุณไว้ หากขุนเขาไม่มาชิดใกล้ งั้นเราก็จะเดินไปหาเอง” ซึ่งมีความหมายคล้ายกับความรู้สึกในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างสถานธรรมฉือจี้ของคุณเมตตา
▲แขกผู้มีเกียรติร่วมตัดริบบิ้น เปิดใช้สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง
คุณเมตตา บอกเล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาว่า “เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ แม้แต่คิดก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ตนจะซื้อที่ดินผืนนี้สร้างสถานธรรมแห่งนี้ขึ้นมา และตนก็ไม่ได้มีความรู้ด้านการก่อสร้างเลย แต่ก็ยังคงมุ่งมั่นลงหลักปักฐาน ก่อสร้างสถานธรรมให้แล้วเสร็จได้ในที่สุด” ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเริ่ม เช่น ไม่มีคนงานมาช่วยก่อสร้าง ไม่มีวัสดุอุปกรณ์อันใดเลย แต่เมื่อมีปณิธาน ย่อมมีพลัง และดั่งโชคเข้าข้างให้ผ่านอุปสรรคแต่ละด่าน แต่ละปัญหามาได้อย่างราบรื่น ดลบันดาลให้มีพระโพธิสัตว์ผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยในเวลาที่สำคัญ
ภาคเหนืออุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ ดังจะเห็นว่าบ้านเรือนของประชาชนนั้นมักจะสร้างด้วยไม้ ซึ่งไม้เหล่านี้เป็นไม้ที่มีคุณภาพ ทนทานนานหลายปีไม่ผุพังง่าย โดยไม้ที่ใช้สร้างสถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง รับซื้อมาจาก 2 แหล่งคือ 1.ยุ้งฉางเก่าของชาวนาหลังหนึ่ง และ2. จากบ้านไม้เก่าของชาวมุสลิม หลังจากรื้อไม้จากสองแหล่งดังกล่าวแล้ว ก็นำมาสร้างสถานธรรมฉือจี้จนแล้วเสร็จดังจะเห็นในวันนี้ คุณเมตตา แบ่งปันความรู้สึกว่า “ทำไมเราต้องสร้างสถานธรรมฉือจี้ที่นี่ จะว่าไปก็เหมือนเป็นบุญพาวาสนานะคะ เพราะโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ก็ตั้งอยู่ อ.ฝาง เราก็จึงอยากจะสร้างอาสาสมัครฉือจี้ขึ้นที่นี่ โดยส่วนตัวแล้วดิฉันคิดว่า การสร้างอาสาสมัครฉือจี้ที่นี่สำคัญมากกว่าที่อื่นๆ และต้องเร่งลงมือทำ และหวังให้สถานธรรมแห่งนี้นำพามาซึ่งพระโพธิสัตว์ ร่วมอุทิศตนเพื่อสังคม”
▲เพื่อความเป็นสิริมงคล และสอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย อาสาสมัครจึงนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป มาสวดมนต์อวยพรในโอกาสเปิดใช้สถานธรรมครั้งนี้
ทุกคนรวมกุศลจิต นำ“คำอวยพร”ร่วมยินดี ในพิธีเปิดใช้สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง
ในห้วงเวลาอันอันอบอุ่นนี้ ทุกคนต่างรวมกุศลจิต หอบนำคำอวยพร มาร่วมแสดงความยินดีกับอาสาสมัครฉือจี้ คุณแอนดี้ หวง แบ่งปันว่า “ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ สู้ๆๆ ผลักดันภารกิจฉือจี้ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ”
ลูกสาวของเจ้าของที่ดินเดิม ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ก็เดินทางมาร่วมพิธีเปิดใช้สถานธรรมฉือจี้เช่นเดียวกัน เมื่อเห็นที่ดินตนเปลี่ยนเป็นสถานธรรมอันสง่างาม เธอก็รู้สึกปีติในจิตใจ ทั้งแสดงความยินดีกับอาสาสมัครฉือจี้ว่า “รู้สึกดีใจนะคะที่มีสถานธรรมฉือจี้ที่ อ.ฝาง อยากให้ทุกคนให้กำลังใจจิตอาสาทำความดี ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราค่ะ ”
อาจารย์รัศมี กฤษณมิษ ร่วมแสดงความยินดีว่า “ดิฉันก็คิดว่าสถานที่ตรงนี้ จะเป็นสถานที่ที่บ่มเพาะความงามในจิตใจ ไปสู่การกระทำต่างๆ และขับเคลื่อนสังคมเล็กๆตรงนี้ ไปสู่ประเทศชาติและโลกต่อไป ”
▲นักเรียนโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ได้แสดงภาษามือประกอบพระสูตร “อมิตตาสารัตถสูตร” การแสดงภาษามืออันพร้อมเพรียงและเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เห็นถึงบรรยากาศแห่งความสง่างามในพิธีเปิดสถานธรรมฉือจี้
ส่งต่อและร่วมเคียงข้างจิตวิญญาณฉือจี้
“ดื่มน้ำรำลึกถึงลำธาร สุขใจวันนี้มิลืมปณิธานเดิม” คุณจารุวรรณ หีบทาไม้ หัวหน้าฝ่ายอบรมอาสาสมัครฉือจี้คนปัจจุบัน เป็นอาสาสมัครฉือจี้จากการเชิญชวนของคุณเมตตา หลังจากผ่านการบ่มเพาะมานานหลายปี จึงได้รับมอบหมายหน้าให้เป็นหัวหน้าฝ่ายอบรมอาสาสมัคร คุณจารุวรรณซึ่งเป็นอาสาสมัครฉือจี้คนไทย ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง มุ่งมั่นในภาระหน้าที่ ผลักดันงานอบรมอาสาสมัครอย่างงอกงาม บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ฉือจี้ได้มากมาย โดยปีนี้มีผู้ได้รับกรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษใหม่ รวม 18 คน ฉะนั้นพิธีต้อนรับกรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษใหม่ปีนี้ จึงมาจัดที่สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งไม่เพียงเพื่อให้ทุกคนร่วมแสดงความยินดีกับสถานธรรมฉือจี้แห่งใหม่ หากยังแสดงความขอบคุณต่อคุณเมตตา เพราะมีคุณเมตตาช่วยไถหว่านนาบุญ ปูทางงานอบรมอาสาสมัครฉือจี้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในตอนนั้น จึงสามารถสร้างอาสาสมัครฉือจี้ชาวไทย ให้แตกหน่อออกใบงดงามมากมายเช่นวันนี้
▲บรรยากาศแห่งความอบอุ่นของการเสิร์ฟน้ำชา เพื่อขอบคุณอาสาสมัครอาวุโส ผู้ซึ่งเป็นดั่งต้นน้ำ บ่มเพาะให้ทุกคนเปี่ยมด้วยความสำนึกคุณ
พิธีต้อนรับกรรมการและสัตยบุรุษใหม่สมเกียรติและสง่างาม สื่อความหมายถึง กรรมการและสัตยบุรุษฉือจี้ใหม่ เดินเข้าสู่ครอบครัวแห่งความรักของฉือจี้อย่างเป็นทางการ และยังสื่อถึงจุดมุ่งหมายแห่งจิตวิญญาณของอาสาสมัครฉือจี้ว่า ยังคงยึดมั่นในปณิธานอันแรกเริ่ม มุ่งมันต่อไปไม่หวั่นเกรง โดยฝ่ายอบรมอาสาสมัครได้จัดกำหนดการในพิธีต้อนรับกรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษใหม่ ได้แก่ 1.สำรวจเครื่องแต่งกายและภาพลักษณ์ภายนอก 2.อ่านศีลของฉือจี้ 10 ข้อ 3.สองไหล่แบกหาม แบกรับภารกิจฉือจี้ 4.ลั่นกลองตั้งปณิธาน 5.ร่วมกล่าวคำปฏิญาณ 6.ตั้งปณิธานร่วมกัน นอกจากนี้กรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษยังเสิร์ฟน้ำชาให้อาสาสมัครอาวุโส เพื่อแสดงถึงความขอบคุณอาสาสมัครอาวุโส ผู้เป็นดั่งต้นน้ำ บ่มเพาะให้ทุกคนเปี่ยมด้วยความขอบคุณ พัฒนาให้ทุกคนเป็นอาสาสมัครฉือจี้ที่งดงาม
▲สองไหล่แบกหาม แบกรับภารกิจฉือจี้ กรรมการฉือจี้ใหม่ คุณนวลคำ อินต๊ะ ตั้งปณิธานจะเดินตามรอยท่านธรรมาจารย์ และจะรับประทานอาหารมังสวิรัติตลอดชีวิต
คุณนวลคำ อินต๊ะ ซึ่งเดิมที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ภายหลังเข้าร่วมการอบรมและเป็นกรรมการฉือจี้ในที่สุด ในบรรยากาศของพิธีต้อนรับกรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษใหม่อันสง่างามนี้ คุณนวลคำ ตั้งปณิธานว่า “ดิฉันนวลคำ อินต๊ะ ขอตั้งปณิธานว่า จากนี้ไปจะรับประทานอาหารมังสวิรัติตลอดชีวิตค่ะ”
▲ สัตยบุรุษใหม่ คุณไกรวุฒิ วรรณวงศ์สอน จะนำเรื่องราวการก่อสร้างสถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง เป็นแรงบันดาลใจทำสิ่งดีๆ และตั้งปณิธานจะสร้างสถานีรีไซเคิลใกล้กับสถานธรรมฉือจี้ เพื่อเชิญชวนอาสาสมัครมาร่วมคัดแยกขยะ
เพราะบุตรเรียนอยู่โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ทำให้คุณไกรวุฒิ วรรณวงศ์สอน ค่อยๆรู้จักและเข้าใจมูลนิธิพุทธฉือจี้ ด้วยความซาบซึ้งใจในมูลนิธิพุทธฉือจี้ คุณไกรวุฒิ จึงตัดสินใจเข้าอบรมเป็นอาสาสมัครฉือจี้ วันนี้คุณไกรวุฒิเป็นอาสาสมัครฉือจี้อย่างเป็นทางการแล้ว และตั้งปณิธานว่า “ผมก็อยากจะทำสถานีรีไซเคิลใกล้ๆกับสถานธรรมฉือจี้ เพื่อเชิญชวนผู้คนมาร่วมคัดแยกขยะ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมารู้จักกับมูลนิธิพุทธฉือจี้มากขึ้น แม้ว่าจะต้องพบเจอกับอุปสรรค แต่ก็จะขอยืนหยัดต่อไป โดยผมจะขอนำเรื่องราวการก่อสร้างสถานธรรมฉือจี้แห่งนี้ เป็นแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งดีๆต่อไป และผมก็รู้สึกดีใจมากๆที่สถานธรรมแห่งนี้เกิดขึ้นมาได้ครับ ”
▲กรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษใหม่ ร่วมกล่าวคำปฏิญาน
กิจกรรมครั้งนี้ อาสาสมัครฉือจี้จากกรุงเทพมหานคร และ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เดินทางมาก่อนล่วงหน้าหลายวัน เพื่อช่วยงานฝ่ายสวัสดิการ ฝ่ายเตรียมอาหาร ฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ เป็นต้น หลังจากกิจกรรมสิ้นสุดอย่างราบรื่นแล้ว ยังไม่ลืมที่จะช่วยนำสิ่งของต่างๆจัดเก็บเข้าที่เดิม แม้ว่าอาสาสมัครฉือจี้ในพื้นที่มีจำนวนน้อย แต่มีญาติธรรมคอยช่วยเหลือด้วยความใส่ใจ มาถึงก่อน กลับทีหลังเช่นนี้ นับว่าเป็นแบบอย่างในด้านวัฒนธรรมอันดีงามของอาสาสมัครฉือจี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานธรรมฉือจี้ อ.ฝาง จ. เชียงใหม่ จะนำพามาซึ่งผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเดินบนวิถีโพธิสัตว์ สร้างพระโพธิสัตว์พันเนตรพันกร ผลักดันสี่มหาภารกิจ แปดรอยธรรมฉือจี้ ให้สว่างสุกไสวในนาบุญแห่งนี้
▲อาสาสมัครฉือจี้ กรรมการฉือจี้และสัตยบุรุษใหม่ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน
เรื่อง เหยาเสี่ยวลี่ , เมตตา ชิว ,ไช่ชิวหลิง ภาพ จรรยพร เข้มแข็ง , ทวีชัย ทาบุญสม , เหยาเสี่ยวลี่ , เมตตา ชิว , หลินเลี่ยงอิ่น