แม้การแพร่ระบาดของโรคโควิดจะทุเลาลง แต่เศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักของไทย ยังคงต้องอาศัยระยะเวลาในการฟื้นฟู ฉือจี้จึงร่วมมือกับหน่วยงานปกครองท้องถิ่นต่างๆ ดำเนินการมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง
ช่วยเหลือเคียงข้างยามวิกฤต
หลังจากได้รับข้าวสารและถุงยังชีพ จิตอาสาฉือจี้เดินเคียงข้างไปส่งชาวบ้านถึงยานพาหนะที่จะโดยสารกลับที่พัก เมื่อเอ่ยถามว่าสิ่งของที่ได้รับช่วยแบ่งเบาความเดือดร้อนได้มากน้อยแค่ไหน ชาวบ้านก็ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มผ่านแววตาว่า “ช่วยได้เยอะ อยู่ได้นานหลายเดือนเลยค่ะ”
ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร 20 กก. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมอบกรอบ ซีอิ๊ว น้ำมัน น้ำผลไม้ สบู่ น้ำตาล รวมเกือบ 40 กก. ทั้งหมดนี้แทนความห่วงใยจากผู้คนในสังคม เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
คุณจงรัก หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับถุงยังชีพกล่าวว่า “ขอบพระคุณมูลนิธิอย่างสูง ที่เมตตากรุณาช่วยเหลือคนจน ที่ต้องผจญกับภัยโควิด รายจ่ายมีแต่เพิ่ม งานการก็ไม่ค่อยมีทำ เขาไม่ค่อยจ้าง เพราะเราเป็นรับจ้างรายวัน ได้รับถุงยังชีพนี้มา ก็ทุ่นรายจ่ายเดือนนี้ไปได้เยอะเลยค่ะ”
จิตอาสาฉือจี้มอบข้าวสารและถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19
ข้าวสาร 20 กก. และอาหารแห้งต่างๆ แทนความห่วงใยจากท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนและชาวฉือจี้ทั่วโลก
จิตอาสาฉือจี้ช่วยประชาชนที่เดินเหินไม่สะดวก นำถุงยังชีพไปส่งที่ยานพาหนะเพื่อเดินทางกลับที่พัก
จิตอาสาฉือจี้ช่วยประชาชนที่เดินเหินไม่สะดวก นำถุงยังชีพไปส่งที่ยานพาหนะเพื่อเดินทางกลับที่พัก
ข้าวสารและถุงยังชีพ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
ความสุขที่ได้รับถุงยังชีพ สะท้อนผ่านแววตาของชาวบ้าน
จิตอาสาฉือจี้นำข้าวสารและถุงยังชีพไปมอบแด่ผู้สูงอายุที่เดินเหินไม่สะดวก ถึงที่พักอาศัยด้วยตัวเอง
จิตอาสาฉือจี้นำข้าวสารและถุงยังชีพไปมอบแด่ผู้สูงอายุที่เดินเหินไม่สะดวก ถึงที่พักอาศัยด้วยตัวเอง
จิตอาสาฉือจี้นำข้าวสารและถุงยังชีพไปมอบแด่ผู้สูงอายุที่เดินเหินไม่สะดวก ถึงที่พักอาศัยด้วยตัวเอง
จากผู้รับ สู่ผู้ให้
“อย่าลืมหยอดกระปุกวันละอย่างน้อยหนึ่งบาท อธิษฐานกับตัวเองว่า ใจจงคิดดี ปากจงพูดดี กายจงทำดี แค่นี้ก็จะสามารถทำบุญได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน ถึงกำหนดก็นำมาบริจาคให้จิตอาสาของเรา เพื่อให้บุญได้ต่อบุญนะคะ” ในกิจกรรมมอบถุงยังชีพทุกครั้ง คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ และจิตอาสาฉือจี้ทุกคนจะบอกเล่าถึงเคล็ดลับในการทำบุญง่ายๆ เพราะการออมวันละอย่างน้อยหนึ่งบาท ลงในกระปุก ไม่เพียงไม่กระทบชีวิตความเป็นอยู่ของตนเอง แต่ยังได้ส่งต่อความรักออกไปช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่งด้วย
ในปี 2565 ฉือจี้มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน ในกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการและปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง คุณวรรัตน์ซึ่งเคยรับกระปุกออมบุญไปก่อนหน้านี้ เมื่อทราบว่าจิตอาสาลงพื้นที่ในชุมชน จึงรีบนำกลับมาร่วมบริจาค
“ถ้าเรามีจิตศรัทธา หรือมีใจที่อยากจะทำบุญ สามารถทำผ่านกระปุกเล็กๆ ใบนี้ที่บ้านได้เลยค่ะ เพราะว่าเงินตรงส่วนนี้ ฉือจี้จะเป็นสะพานบุญให้เรา ด้วยการนำไปช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากต่อ” คุณวรรัตน์กล่าว
คุณยุพิน สงวนคำ ประธานชุมชนสงวนคำ อาศัยการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เพื่อช่วยรวบรวมกระปุกออมบุญจากลูกบ้านมามอบให้ฉือจี้เป็นประจำทุกเดือน โดยบอกเล่าถึงคุณประโยชน์ของกุศโลบายการทำบุญผ่านกระปุกว่า “ทุกคนสามารถทำบุญได้ทุกวัน โดยที่ไม่กระทบกับความเป็นอยู่ของตัวเอง อาจจะวันละ 1 บาท 5 บาท หรือ 10 บาท แล้วแต่กำลัง ซึ่งในสถานการณ์ที่โรคโควิดยังแพร่ระบาด หลายคนอาจจะยังไม่สะดวกออกไปข้างนอก แต่ก็สามารถทำบุญได้จากที่บ้าน ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวเขาเองเท่านั้น ทว่าทุกคนในครอบครัวก็สามารถมีส่วนร่วมได้”
คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานบริหารมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย บอกเล่าแนวคิดเรื่อง "บุญต่อบุญ" ผ่านกระปุกออมบุญ
ชาวบ้านที่มารับถุงยังชีพ มีจิตเมตตาอาสาขอร่วมออมบุญกับฉือจี้ เปลี่ยนจากผู้รับเป็นผู้ให้
ส่วนหนึ่งใน “พลัง” ร่วมดูแลสังคม
คุณบุญสม หนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมบริจาคผ่านกระปุกออมบุญฉือจี้นานกว่าครึ่งปี บอกเล่าความรู้สึกของตัวเองในการร่วมทำความดีว่า “หลังจากทำแล้ว ผมรู้สึกสบายใจ เพราะแม้เราจะเคยเดือดร้อน แต่เราก็ยังช่วยเหลือคนอื่นได้ตามกำลังความสามารถ ก็อยากจะให้มาช่วยกัน ฉือจี้ช่วยเรา เราช่วยฉือจี้ เขาจะได้ดูแลผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากต่อไปได้”
“เวลาที่ได้รับถุงยังชีพ เราเองก็ยังดีใจเลย ฉันจึงอยากจะร่วมบุญด้วยการหยอดกระปุก แล้วเอาไปให้เขาเพื่อเป็นสะพานบุญต่อไปค่ะ” คุณสมพร ชาวบ้านที่ร่วมบริจาคผ่านกระปุกออมบุญฉือจี้อีกคนกล่าวด้วยความอิ่มเอม แม้ปัจจุบันจะอยู่บ้านเลี้ยงหลานเป็นหลัก และทำงานรับจ้างทั่วไปบ้างเป็นครั้งคราว แต่เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก คุณสมพรจึงยินดีเปลี่ยนจากผู้รับเป็นผู้ให้
คุณวรรัตน์ สมาชิก "กระปุกออมบุญฉือจี้" ร่วมเป็นสะพานบุญ เก็บออมหยาดหยดความรักเพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมต่อไป
คุณยุพิน สงวนคำ ร่วมเป็นสะพานบุญ ช่วยจิตอาสาฉือจี้เก็บรวบรวมกระปุกจากลูกบ้านมาร่วมบริจาคเป็นประจำต่อเนื่อง
คุณสมพร หนึ่งในสมาชิกกระปุกออมบุญฉือจี้ ผู้เป็นพลังส่วนหนึ่งในการดูแลสังคม
คุณบุญสม รู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม
ตั้งแต่ มกราคม – มิถุนายน ปี 2565 จิตอาสาฉือจี้ได้มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากไปแล้วมากกว่า 9,500 ครอบครัว และจะเคียงข้างต่อจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไป
เรื่อง บุษรา สมบัติ ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี, ดรรชนี สุระเทพ, รัตนโชติ ประมวลทรัพย์, สิงหราช ชวนชม