ค้นหาข่าว

ยื่นมือช่วยเหลือ เคียงข้างผู้ลี้ภัย ก้าวผ่านโควิด-19


2020072webcover

 

ช่วยเหลือฉุกเฉิน หวังให้อิ่มกาย สบายใจ

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบให้ประชาชนจำนวนมาก ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มูลนิธิพุทธฉือจี้จึงมี “โครงการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากโรคโควิด-19” โดยการมอบถุงยังชีพต่อเนื่อง 3 เดือน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมิใช่เพียงประชาชนคนไทย หากแต่น้ำใจอันไร้ซึ่งชนชาติ เชื้อชาติและศาสนากั้น ยังโอบอ้อมอารีถึงชาวต่างชาติ ผู้ซึ่งจำต้องลี้ภัยมาพำนักอาศัยในประเทศไทยอีกด้วย

โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา จิตอาสาฉือจี้ในเมืองไทยลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำถุงยังชีพอันเปี่ยมไปด้วยความรักของฉือจี้มอบถึงมือผู้ลี้ภัย รวม 17 รอบ มีผู้ลี้ภัยได้รับความช่วยเหลือ รวม 3,400 ครอบครัว


20200528-169-bylek-faceblur
เมื่อได้รับนมผงจากฉือจี้แล้ว เด็กๆต่างรู้สึกดีใจกันถ้วนหน้า ส่วนผู้ปกครองก็รู้สึกคลายกังวล เพราะนมผงที่ได้รับจากฉือจี้ช่วยลดภาระในครอบครัวได้

ช่วงโรคโควิด-19 ระบาดเช่นนี้ จิตอาสามีความห่วงใยสุขภาพของเด็กๆผู้ลี้ภัย จึงนำนมผงที่ผู้ใจบุญนำมาบริจาค ส่งต่อมอบให้เด็กๆในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเติมเต็มโภชนาการทางอาหารให้แก่พวกเขา จิตอาสาฉือจี้ คุณจิ้นหรงกาง แบ่งปันว่า “เรามอบนมผงสำหรับสองเดือนให้กับเด็กอายุ 0-1 ขวบคนละ 2 กล่อง และเด็กอายุ 1 -3 ขวบ คนละ 4 กล่อง เพราะว่าเด็กที่โตกว่าจะกินเยอะกว่าครับ ”

มีเด็กผู้ลี้ภัย รวม 124 คน ได้รับนมผงจากฉือจี้ หนึ่งในผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา แบ่งปันความรู้สึกด้วยความซาบซึ้งใจว่า “หนูดีใจมาก ก็ขอบคุณฉือจี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆเลย ถ้าไม่มีฉือจี้ช่วย ก็ไม่มีตังค์ซื้อให้ลูกกิน ”

 

ใส่ใจคนเจ็บป่วย บริการผู้ลี้ภัย รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้กิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวตั้งแต่เดือนมีนาคม และปัจจุบันก็ยังไม่ทราบวันเวลาที่สามารถจัดกิจกรรมได้ดังเดิม ด้วยความห่วงใยที่มีต่อผู้ป่วย เจ้าหน้าที่แผนกกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี จึงช่วยไปรับยารักษาโรคของผู้ป่วยที่โรงพยาบาล มามอบให้กับผู้ลี้ภัย ทำให้พวกเขาสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างต่อเนื่อง และรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่อาการป่วยกำเริบ หรือสุขภาพร่างกายมีความผิดปกติ จำเป็นต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วน สามารถขอความช่วยเหลือกับฉือจี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่แผนกกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี ช่วยจัดสรรเวลาและพาผู้ลี้ภัยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เช่นระหว่างที่ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน จิตอาสาพบกว่ามีผู้ลี้ภัยมีอาการเจ็บป่วย จึงเร่งช่วยประสานงาน เพื่อส่งพวกเขาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล


20200615-087-bylek
คุณโรเมล เจ้าหน้าที่แผนกกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี (ขวา) ช่วยไปรับยารักษาโรคที่โรงพยาบาล และนำมามอบให้ผู้ลี้ภัยที่เจ็บป่วย ทำให้พวกเขาสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างต่อเนื่อง และรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

จิตอาสาฉือจี้ คุณจิ้นหรงกาง แบ่งปันในระหว่างเยี่ยมบ้านว่า “เด็กคนหนึ่งเริ่มมีไข้ตั้งแต่เมื่อวาน(1 ก.ค.) แม่เขาบอกว่า เพราะว่าเขาไม่มีเงิน ก็เลยเอายาเก่าๆมาให้ลูกกิน พอได้ฟังเรื่องราวดังกล่าว เราก็รู้สึกหดหู่ใจ เพราะว่าเด็กเล็กเวลาเจ็บป่วยอย่างนี้ก็ควรไปหาหมอ ดังนั้น เมื่อสักครู่ เราก็เลยถ่ายรูปเอกสารของพวกเขา และส่งเรื่องให้แผนกกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีอย่างเร่งด่วน เพื่อจัดการพาพวกเขาไปหาหมอในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ คาดว่าวันสองวันนี้ จะพาแม่ลูกคู่นี้ไปหาหมอได้ครับ”

จากการประสานงานกันเป็นอย่างดี ทำให้เด็กน้อยสามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ในวันถัดไป เมื่อได้รับการช่วยเหลือและดูแลด้วยความใส่ใจเช่นนี้ ทำให้ผู้ลี้ภัยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

 

20200720-001
คุณธันย์ชนก จวงไพศาลสกุล (ขวา) เจ้าหน้าที่แผนกกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี (ขวา) ช่วยพาแม่ลูกคู่นี้มารับการรักษาที่โรงพยาบาล

 

จากการช่วยเหลือฉุกเฉิน ต่อยอดสู่การช่วยเหลือด้านการกุศล

มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยไม่เพียงมอบถุงยังชีพให้กับผู้ลี้ภัยต่อเนื่อง 3 เดือน หากยังลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เข้าใจสภาพความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน โดยหวังว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่าง “ตรงจุด ตรงประเด็น และทำได้จริง” เพื่อเคียงข้างพวกเขาก้าวข้ามผ่านวิกฤติครั้งนี้


20200622-011-bydatchanee
จิตอาสาฉือจี้เยี่ยมชมสวนผักของนิว ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม (ขวา) เพื่อเข้าใจถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น


จิตอาสาฉือจี้เดินไปบนซอยแคบๆในชุมชนไปยังที่พักผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม เพื่อดำเนินการสำรวจเยี่ยมเยียนความเป็นอยู่ของพวกเขา ใกล้ที่พักของผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม มีผู้ใจบุญคนหนึ่งให้ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามปลูกผักเลี้ยงชีพโดยไม่คิดค่าเช่า ซึ่งในระหว่างที่คุณนิว ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามนำจิตอาสาฉือจี้ไปเยี่ยมชมสวนผัก เขาแบ่งปันว่า “พอเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้เราไม่มีงานทำ ได้แต่อยู่ที่บ้าน และไม่รู้จะทำอะไร หรือไม่ก็มาดูแลสวนผักอ่ะครับ ”

หลังจากเยี่ยมบ้านและปรึกษาหารือกันแล้ว จิตอาสาฉือจี้มีมติให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 เดือน โดยมอบเงินสงเคราะห์เดือนละ 5,000 บาท ตั้งแต่มิถุนายนถึงสิงหาคม คุณนิวแบ่งปันความรู้สึกหลังจากได้รับความช่วยเหลือว่า “ผมขอขอบคุณท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนและจิตอาสาทุกๆคนที่มาช่วยเหลือครับ”

 

20200711-033-bydatchanee
หลังจากที่จิตอาสาช่วยปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดห้องและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆภายในห้อง ห้องพักของคุณเริ่นเจี้ยนกว๋อ ก็สะอาดเรียบร้อยราวกับห้องใหม่

 

รับ “คุณเริ่นเจี้ยนกว๋อ” ผู้ลี้ภัยชาวจีนที่ไร้ซึ่งที่พึ่งพิง อาศัยเพียงลำพัง เป็นเคสที่ฉือจี้ให้การดูแลระยะยาว ในระหว่างเยี่ยมบ้าน จิตอาสาฉือจี้พบว่า ห้องพักของคุณเริ่นเจี้ยนกว๋อมีสภาพไม่ดีนัก จึงตัดสินใจช่วยทำความสะอาด โดยหวังว่า สภาพที่อยู่อาศัยที่สะอาด ถูกสุขอนามัย จะทำให้อาการป่วยโรคหอบหืดของคุณเริ่นเจี้ยนกว๋อดีขึ้นเรื่อยๆ จิตอาสาฉือจี้ คุณกวอซิ่วจู แบ่งปันว่า “เราเตรียมสิ่งของต่างๆไปทำความสะอาดห้องพักของคุณเริ่นเจี้ยนกว๋อ และยังได้นำเตียงกุศลปัญญาฉือจี้ มุ้ง รวมทั้งที่นอนไปมอบให้คุณเริ่นเจี้ยนกว๋ออีกด้วยค่ะ ”

หลังจากจิตอาสาร่วมแรงร่วมใจกันจัดการกับขยะ และทำความสะอาดปัดฝุ่นข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ห้องพักของคุณเริ่นเจี้ยนกว๋อก็สะอาดเรียบร้อยราวกับห้องพักใหม่ เมื่อเห็นถึงบรรยากาศของความอบอุ่นเฉกเช่น “บ้าน” ทำให้คุณเริ่นเจี้ยนกว๋อรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งและแบ่งปันความรู้สึกว่า “ผมขอบคุณมากๆที่คุณมาช่วยทำความสะอาด ติดตั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆมากมาย (ราวตากผ้า ชั้นวางสิ่งของ เตียงกุศลปัญญา) ผมรู้สึกซาบซึ้งใจฉือจี้ เพราะผมก็ตัวคนเดียวในต่างถิ่นฐานบ้านเกิด จึงยากสำหรับการใช้ชีวิต ตอนนี้ก็เลยต้องพึ่งทั้งเงินสงเคราะห์ ทั้งข้าวของเครื่องใช้จากฉือจี้ และยังมีจิตอาสามาช่วยทำความสะอาดห้องอีก ผมซาบซึ้งใจจนรู้สึกว่าน้ำตาคลอเบ้าไปหมด ขอบคุณมากๆครับ ผมก็คิดในใจว่า ผมก็อายุ 70 ปีแล้ว ยังไม่เคยพบเจอกับเรื่องราวที่น่าซาบซึ้งใจอย่างนี้เลยครับ ”

 

20200711-079-bydatchanee-faceblur
เมื่อเห็นถึงบรรยากาศของความอบอุ่นเฉกเช่น “บ้าน” ทำให้คุณเริ่นเจี้ยนกว๋อรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง สองมือประนมไหว้ขอบคุณจิตอาสา

เมื่อเห็นว่า คุณเริ่นเจี้ยนกว๋อ จะกลั้นน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจในระหว่างแบ่งปันความรู้สึกไว้ไม่อยู่ คุณจิ้นหรงกางจึงเข้าปลอบโยนจิตใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจคุณเริ่นเจี้ยนกว๋อว่า “ไม่ต้องร้องไห้นะครับ คนเราก็อย่างนี้แหละ เมื่อต้องพบเจอกับปัญหา หรืออุปสรรคที่ยากจะหลีกหนีได้อย่างนี้ เราก็ต้องรักษาจิตใจให้สงบ มีสติเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้น เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปครับ”

 

ช่วยเหลือด้วยการทำงาน บ่มเพาะการเป็นผู้ให้กับผู้ลี้ภัย

เพราะทราบดีว่า ผู้ลี้ภัยซึ่งต้องพำนักอาศัยในประเทศไทย อันต่างถิ่นฐานบ้านเกิด มีชีวิตลำบากต่างๆนานาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาดขึ้นอีก เหมือนซ้ำเติมชีวิตของพวกเขาให้ดำดิ่งสู่มุมมืด ยากเกินกว่าจะอธิบายได้ ดังนั้น ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ฉือจี้ในเมืองไทยนอกจากให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆแล้ว ยังอาศัย “การช่วยเหลือด้วยการทำงาน” ให้ผู้ลี้ภัย 6 คน มาช่วยทำงานทั่วไปที่มูลนิธิฯสัปดาห์ละ 3 วัน เช่น ช่วยขนสิ่งของ ทำความสะอาด จัดสถานที่กิจกรรม ช่วยงานมอบถุงยังชีพ เป็นต้น

ไม่เพียงเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ให้พวกเรามีรายได้จุนเจือครอบครัว หากยังเป็นโอกาสอันดี บ่มเพาะกุศลจิต ทำให้พวกเขารู้จักการเป็นผู้ให้ เสียสละเพื่อผู้อื่นมากขึ้น

 

20200424-154-bylek-blur
ฉือจี้อาศัย “การช่วยเหลือด้วยการทำงาน” ให้ผู้ลี้ช่วยงานมอบถุงยังชีพและขนสิ่งของ ในขณะเดียวกันยังอาศัยโอกาสนี้บ่มเพาะจิตวิญญาณการเป็นผู้ให้ของเขา

 


   เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ       ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี ดรรชนี  สุระเทพ