ชีวิตเป็นดั่งความฝัน แม้เราจะเข้าใจในสัจธรรมข้อนี้เป็นอย่างดี แต่กลับไม่สามารถควบคุมจิตใจตัวเองได้ รู้ทั้งรู้ว่าอะไรผิด อะไรไม่ควรทำ แต่กลับควบคุมพฤติกรรมตัวเองไม่ได้ เมื่อเกิดกิเลสขึ้นในจิตใจ ย่อมประพฤติตนไม่เหมาะสม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสุรา ตัณหาราคะ ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงหรือลาภยศ ล้วนทำให้จิตใจลุ่มหลง จนควบคุมไม่ได้ และใช้ชีวิตอย่างลุ่มหลงมัวเมา สับสนเลอะเลือน คิดว่ามายาภาพ คือ ความจริง
ชีวิตของเราเป็นเช่นนี้หรือ เห็นแล้วก็อยากได้ ฉันอยากได้สิ่งนี้ แท้จริงแล้วสิ่งนั้น มันคืออะไร นับแต่โบราณมา มีกี่คนแล้วที่เห็นวัตถุธรรมดาเป็นสมบัติล้ำค่า เป็นสมบัติแล้วทำไมหรือ หากมองให้ชัด จะเห็นว่าต้องแลกด้วยการทำลายทุกสิ่ง นับแต่โบราณมา ความโลภนี้ได้ทำลายไปแล้วกี่ชีวิต กว่าจะได้สมบัตินั้นมา ดังนั้นมันจึงมีราคาที่สูง
ผู้คนบนโลกต่างต้องการ และปรารถนาที่ จะครอบครอง โดยหารู้ไม่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นมายาภาพ
รูปภาพโดย บุษรา สมบัติ
องค์หญิงน้อยกับฟองอากาศบนผิวน้ำ
ในอดีต พระราชาผู้หนึ่ง ทรงโปรดองค์หญิงน้อยของพระองค์เป็นอย่างมาก จึงได้สร้างสวนดอกไม้ที่งดงามให้ ในลำธารก็มองเห็นฟองอากาศ ที่เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ จะสะท้อนแสงสีรุ้งออกมา ดั่งไข่มุกหลากสี
เมื่อองค์หญิงน้อยทอดพระเนตรเห็นก็ทรงโปรดเป็นอย่างยิ่ง จึงตรัสกับพระราชาว่า “ลูกอยากได้ไข่มุกที่อยู่ในน้ำเหล่านั้น” พระราชาตรัสว่า “มันเป็นฟองอากาศ ทำได้แค่ดู ไม่สามารถจับต้องได้” องค์หญิงน้อยจึงตรัสว่า “ ลูกไม่สนใจ ลูกอยากได้เพคะ” พระราชาจนใจที่จะอธิบาย ทำอย่างไรจึงจะนำฟองอากาศมาให้องค์หญิงน้อยได้ จึงรับสั่งให้ทหารเร่งเดินทางเข้าไปในตัวเมือง เพื่อติดประกาศหาผู้ที่สามารถนำฟองอากาศขึ้นจากน้ำ มาให้องค์หญิงน้อยให้ได้ภายใน 7 วัน มิเช่นนั้น ผู้รับผิดชอบจะต้องถูกตัดหัว
เมื่อเวลากระชั้นเข้ามา ทุกคนต่างกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก นักปราชญ์ผู้หนึ่ง เดินทางมาจากต่างถิ่น ได้เห็นประกาศที่ติดไว้ และครอบครัวของผู้รับผิดชอบ ที่สวมกอดและร่ำไห้ด้วยกัน เขาจึงดึงใบประกาศออกมาและมุ่งหน้าไปยังวังหลวง
นักปราชญ์พูดว่า “ขอให้องค์หญิงไปเลือกไข่มุกด้วยกันขอรับ”
องค์หญิงน้อยดีใจมากจึงเสด็จไปริมน้ำ “องค์หญิงต้องการเม็ดไหนขอรับ”
องค์หญิงน้อยจึงเริ่มทอดพระเนตรหา แล้วตรัสว่า “เราชอบเม็ดนี้ เม็ดนั้น และเม็ดโน้น”
นักปราชญ์จึงพูดว่า “หม่อมฉันจะให้อุปกรณ์นี้แก่พระองค์ ถ้าพระองค์ต้องการเม็ดไหน
ก็สามารถช้อนมันขึ้นมาได้ หรือจะนำมาร้อยเป็นสร้อยก็ได้นะขอรับ”
องค์หญิงช้อนอุปกรณ์ลงไป เพียงแค่น้ำกระเพื่อม ฟองอากาศก็แตกออก องค์หญิงจึงพยายามอีกครั้ง แต่ไม่ว่าองค์หญิงจะพยายามสักเพียงใด ก็ยังแตกอยู่ดี องค์หญิงน้อยทรงกริ้วเป็นอย่างมาก ทำไมตนจึงช้อนขึ้นมาไม่ได้ หรือแท้จริงแล้ว มันไม่ใช่สิ่งของที่จับต้องได้
นักปราชญ์จึงพูดว่า “ใช่แล้วขอรับองค์หญิง หากแม้แต่พระองค์ยังช้อนมันขึ้นมาไม่ได้ แล้วใครเล่าจะทำได้ ฟองอากาศเป็นเพียงภาพลวงตาที่จับต้องไม่ได้ ชื่อของมันคือฟองอากาศ เกิดจากน้ำไหลจากที่สูงลงมาที่ต่ำ กลายเป็นฟองอากาศบนน้ำ หรือหากน้ำมีการเคลื่อนไหว ก็จะทำให้เกิดฟองขึ้น เรียกว่าฟองอากาศ ฟองอากาศเป็นแค่อีกชื่อหนึ่งของน้ำ น้ำก็คือชื่อหนึ่งของฟองอากาศ หากวิเคราะห์ตามชื่อเรียกนี้แล้ว หม่อมฉันก็มีวิธีนำไข่มุกมาให้พระองค์ได้ขอรับ”
องค์หญิงทรงลองคิดไตร่ตรองตามที่นักปราชญ์พูด ไม่ว่าน้ำหรือฟองอากาศ มันก็คือ “น้ำ” เหมือนกัน เดิมทีน้ำก็ไหลไม่หยุดนิ่ง ฟองอากาศก็เป็นดั่งภาพมายาที่ไม่จีรังยั่งยืน ชีวิตก็เป็นภาพมายาไม่จีรังยั่งยืนเช่นกัน เมื่อทรงคิดได้เช่นนี้แล้ว องค์หญิงจึงมีพระประสงค์จะเรียนรู้หลักสัจธรรม และตรัสกับพระราชาว่า "ลูกไม่ต้องการไข่มุกอะไรแล้วเพคะ ลูกอยากให้นักปราชญ์ท่านนี้ มาเป็นครูของลูกเพคะ”
นับจากนั้นมา องค์หญิงจึงค่อยๆ ซึมซับหลักธรรมคำสอน จนถ่องแท้ในเส้นทางแห่งธรรม และนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตจริง ทรงทุ่มเททำงานเพื่อพสกนิกร จนกลายเป็นที่ปรึกษาที่ดีของพระราชา เพราะทรงมีพระปรีชาสามารถและฉลาดหลักแหลม
เราจึงต้องหมั่นรักษาจิตใจให้บริสุทธ์ เพราะถ้าเราหลงผิด ก็จะเห็นภาพลวงตาเป็นสิ่งจีรัง แต่หากจิตใจเราตื่นรู้ ถ่องแท้ในหลักสัจธรรม เราก็ย่อมเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างกระจ่างแจ้ง ชีวิตเปรียบดั่งเมฆหมอกพัดผ่าน เรามีสิทธิ์เพียงใช้ชีวิต แต่ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง ดังนั้น ขออย่าได้เห็นว่า ชีวิตเราเป็นสิ่งจีรังยั่งยืน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นภาพมายา ที่ลวงให้หลงลืมจิตเดิมแท้อันบริสุทธิ์ของเรา จึงทำให้ลุ่มหลงกับรูปลักษณ์หรือสิ่งของ แก่งแย่งชิงดีก่อให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ จากน้ำมือมนุษย์ ส่วนความสุขนั้นก็สามารถสร้างขึ้นจากความคิดของเรา ดังนั้น พวกเราต้องหมั่นดูแลความคิดของตนเองให้ดี
เราทุกคนล้วนมีสมบัติอันล้ำค่าในตัว แต่เราอาจจะไม่รู้ นั่นคือคุณธรรมในจิตใจ ดังนั้นเมื่อมีคุณธรรมแล้ว เราย่อมใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข แต่เพราะไม่รู้ว่าเรามีสมบัติล้ำค่าในตัว จึงใช้ชีวิตอย่างลุ่มหลงมัวเมา เห็นภาพมายาเป็นสิ่งจีรังยั่งยืน ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นดูแลรักษาจิตใจของตน การใช้ชีวิตในโลกแห่งมายานี้ เราต้องรู้จักค้นหาหลักธรรมนำมาปรับใช้ ซึ่งในจิตใจของเราทุกคนล้วนมีไข่มุกนี้เช่นกัน หากเราไม่ดูแลรักษาให้ดี ไข่มุกนี้ก็ย่อมไม่ปรากฎให้เห็น ก็จะเป็นเพียงแค่ฟองอากาศบนผิวน้ำเท่านั้น มัวแต่ช้อนหาฟองอากาศ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไข่มุก โดยคาดไม่ถึงเลยว่า เราทุกคนล้วนมีไข่มุกอันแข็งแกร่ง อยู่ภายในจิตใจของตัวเองอยู่แล้ว