จิตใจของเราทุกคน กระจ่างใสอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ เราได้ขัดเกลาเช็ดถูจิตใจของตนเองให้ใสสะอาดทุกวันหรือเปล่า ทำไมช่วงนี้คุณดูไม่มีชีวิตชีวาเลย ช่วงนี้ฉันมีเรื่องให้ทุกข์ใจเยอะมาก เรามักจะได้ยินบทสนทนาเช่นนี้ ไม่มีชีวิตชีวาเพราะทุกข์ใจกับเรื่องต่างๆ เมื่อใดก็ตามที่เราไม่สดใส สะท้อนให้เห็นว่า จิตใจของเราถูกแปดเปื้อนด้วยปัญหาและความทุกข์มากมายต่างๆ นานา
ในบางสถานการณ์ บางครั้งหลักการและเหตุผลก็ไม่ชัดเจน การคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย จึงนำพาเราออกห่างจากเป้าหมายไปไกลยิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องตั้งอกตั้งใจให้ดี ต้องเช็ดถูจิตใจให้ใสกระจ่าง ต้องดูแลจิตใจให้ดี จะเห็นบางคนที่รักษาสิ่งของ กลัวว่าหากมือไปโดนเข้า จะทำให้มีริ้วรอย จึงห่อหุ้มสิ่งเหล่านั้นเอาไว้ ตัวเองก็ใส่ถุงมือก่อนจะหยิบจับ ด้วยความกังวลว่าเชื้อโรคหรือเหงื่อที่มือ จะไปทำให้สิ่งของชิ้นนั้นแปดเปื้อน สิ่งของนอกกายเรายังรู้จักดูแลรักษาถึงขนาดนี้ แล้วความใสกระจ่างภายในจิตใจของเรา ทำไมจึงไม่รู้จักดูแลรักษา ดังนั้นจึงต้องดูแลรักษาจิตใจของเราให้ดี อย่าให้สิ่งแวดล้อมภายนอก มากระทบจนจิตใจของเราแปดเปื้อนได้
รูปภาพโดย บุษรา สมบัติ
การประชันบูรณะวัด
มีผู้อาวุโสซึ่งศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก มักจะไปไหว้พระที่วัดอยู่เสมอ ช่วงหนึ่ง ท่านพบว่ามีวัด 2 แห่งที่ไม่ได้รับการบูรณะดูแลรักษามาเป็นเวลานาน อีกทั้งไม่มีผู้อยู่อาศัย ผู้อาวุโสท่านนี้จึงคิดว่า จะมีใครอาสามาบูรณะซ่อมแซมวัดทั้ง 2 แห่งนี้หรือไม่
ระหว่างนั้น มีเยาวชนกลุ่มหนึ่ง เข้ามาบอกกับผู้อาวุโสว่า "พวกเราล้วนมีพรสวรรค์ วัดแห่งนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเราเถอะ เราจะเปลี่ยนวัดเก่าให้เป็นวัดใหม่เอง" ผู้อาวุโสดีใจมาก หากต้องการสิ่งใด ก็ขอให้แจ้งมาได้ เยาวชนกลุ่มนี้จึงขอสีและอุปกรณ์ต่างๆ
ส่วนอีกวัดหนึ่งนั้น ก็มีนักบวชกลุ่มหนึ่ง มาแจ้งกับผู้อาวุโสว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของนักบวชกลุ่มนี้ ผู้อาวุโสดีใจมาก ที่มีนักบวชมาช่วยบูรณะวัด “พวกท่านต้องการสิ่งใดบ้าง” นักบวชกล่าวว่า ขอให้ท่านช่วยเตรียมถังน้ำและผ้าไว้ให้ก็เพียงพอแล้ว
ทั้งสองกลุ่มจึงเริ่มบูรณะวัดในเวลาเดียวกัน
การทาสีของเหล่าเยาวชน ทำให้เปลี่ยนโฉมหน้าของวัดไปอย่างสิ้นเชิง จนเต็มไปด้วยสีสันที่สดใสสวยงาม
อีกด้านหนึ่ง เหล่านักบวชก็ค่อยๆ ทำความสะอาดทีละชั้นๆ นำน้ำใส่ถัง นำผ้าเช็ด ขัดและถูไปเรื่อยๆ จนวัดสะอาดหมดจด คราบสกปรกบนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ก็ถูกขจัดออกไปจนเป็นเงาวับ
สามวันต่อมา ผู้อาวุโสจึงกลับมาดู ช่างสวยงามอร่ามเรืองรอง เต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลาย จากฝีไม้ลายมือในการลงสี อีกวัดก็เรียบง่าย สะอาดสวยงามเช่นกัน หากสังเกตให้ดี จะพบว่าสิ่งปลูกสร้างทุกอย่างในวัดที่เรียบง่ายแห่งนี้ เงาวับจนสามารถสะท้อนสีสันสดใสของวัดที่ตั้งอยู่ตรงข้ามออกมาได้ อีกทั้งยังสะท้อนภาพฟ้าครามและเมฆขาวที่ลอยละล่อง ราวกับมีชีวิตขึ้นมา
การประชันฝีมือของทั้งสองฝ่าย ทุกคนล้วนยกย่องชื่นชมในฝ่ายของนักบวชมากกว่า เพราะสามารถสะท้อนทัศนียภาพอันงดงามออกมาได้จากความเรียบง่ายนั้น
ดังนั้น เราเองจึงต้องพยายามอย่างหนัก ที่จะขจัดความทุกข์ออกไป ไม่ให้แปดเปื้อนถูกจิตใจ เพื่อให้สะท้อนความงดงามและสีสันของธรรมชาติทุกสิ่งทุกอย่างออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือแม่น้ำลำธาร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยวัตถุภายนอกมาประดับตกแต่งเลย
------
หากเราลองใช้ความคิดใคร่ครวญให้ดี
การที่เราอยากได้สิ่งนี้ อยากได้สิ่งนั้น ฉันต้องใช้วิธีการใดจึงจะได้มา
หากลองใคร่ครวญดูจะพบว่า ทั้งหมดนี้คือ “ความโลภ” ไม่รู้จักพอ
ไม่ว่าจะพยายามไขว่คว้าเพื่อครอบครองให้ได้มากมายเพียงใดก็ตาม
สุดท้ายก็ไม่ได้อย่างที่อยากมีอยากได้ แต่ก็ยังจะพยายามมากยิ่งขึ้น
ทั้งๆ ที่รู้ว่าครอบครองไม่ได้ แต่ก็ยังจะไขว่คว้า
ถือเป็นการสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจของเรา
เป็นการทรมานจิตใจตัวเอง เป็นทุกข์เพราะความอยากมีอยากได้
------
แท้จริงแล้ว จิตใจของเรานั้นบริสุทธิ์ไร้มลทิน ไม่มีความทุกข์ใดๆ ทั้งสิ้น ง่ายดายเช่นนี้เอง หากเราขัดเกลาเช็ดถูจิตใจให้สะอาดแล้ว ก็จะกระจ่างใสเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนภาพภายนอก ไม่ว่าภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร กระจกเงาบานนี้ก็ยังคงสงบนิ่ง ยังคงใสสะอาด ดั่งเช่นวัดสองแห่งนั้น
การแต่งแต้มสีสันต่างๆ ลงไป แรกเห็นก็ดูเหมือนจะงดงาม แต่มองนานๆ กลับกลายเป็นน่าเกลียด ส่วนอีกวัดที่ได้รับการบูรณะโดยนักบวช ผ่านการเช็ดถูอย่างพิถีพิถัน ปราศจากฝุ่นผงใดๆ ก็งดงามเงาวับราวกับกระจก จนสะท้อนทัศนียภาพภายนอกออกมาได้ การดูแลจิตใจของเราเอง ก็เรียบง่ายเช่นนี้เอง