อาจารย์มักพูดอยู่เสมอว่า ต้องดูแลรักษาจิตใจให้ดี ซึ่งไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร ก็ไม่พ้นการควบคุมนิสัยสันดานของตนเอง เราจะปรับปรุงแก้ไขนิสัยไม่ดี ปลูกฝังนิสัยที่ดีให้ติดตัวไปตลอดได้อย่างไร หากยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จนปล่อยให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจขึ้น ไม่นานกริยาท่าทางไม่ดีก็จะปรากฏออกมาให้เห็น จนผูกวาสนาที่ไม่ดีต่อกัน ทำให้ดำเนินชีวิตกับคนรอบข้างแบบมีความสัมพันธ์ที่ดีบ้างร้ายบ้าง แตกต่างกันออกไป
เหมือนที่เรามักจะพูดกันว่า ก็ฉันมีนิสัยอย่างนี้ แต่ความจริงแล้วฉันเป็นคนจิตใจดี เราคงจะจินตนาการกันได้ว่า คนที่อารมณ์ฉุนเฉียว เวลาปฏิบัติต่อผู้อื่น จะทิ้งภาพจำแบบไหนเอาไว้ แม้พื้นฐานจิตใจจะไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่เมื่อภาพจำเพิ่มพูนขึ้น ก็จะยิ่งเห็นแต่ภาพลบ เมื่อนั้นวาสนาที่ไม่ดีต่อกันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็ต้องรับผลของมันเอง จึงจำเป็นต้องดำเนินชีวิตด้วยสติ รู้จักควบคุมอารมณ์ความคิด หมั่นเตือนและสำรวจตนเองอยู่เสมอ ในเมื่อคนอื่นเป็นแบบนี้ แล้วตัวเราล่ะ นิสัยของเราเป็นแบบไหน ต้องหมั่นส่องกระจกสำรวจตนเอง
เจิงจื่อลูกศิษย์ของขงจื๊อบอกว่า “ต้องสำรวจตัวเองวันละ 3 ครั้ง” ขนาดลูกศิษย์ของขงจื๊อยังทำแบบนี้ เราซึ่งเป็นศิษย์ของพระพุทธองค์ก็ยิ่งต้องลงมือทำ ความคิดที่เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบ ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับอะไร ก็ต้องรู้จักทบทวนไตร่ตรองให้ดี หากในชีวิตประจำวันได้ระมัดระวังและคิดทบทวนดีแล้ว จะมีอุปสรรคสิ่งกีดขวางอะไรที่เกิดขึ้นเพราะตัวเราเองอีก
เพราะเหตุนี้ จึงต้องรีบปรับปรุงแก้ไขนิสัยสันดานไม่ดีของตัวเอง รีบฟื้นฟูจิตใจดั้งเดิมอันบริสุทธิ์ให้กลับคืนมา ดังเช่นนิทานเรื่องหนึ่งที่สอนให้เรา รู้จักเปิดใจให้กว้างขึ้น เพื่อโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่าง แค่นี้ก็จะปราศจากความโกรธเกลียดและแค้นเคือง
รูปภาพโดย บุษรา สมบัติ
แตงคุณธรรม
ประเทศจีนในยุครณรัฐ มีนักปราชญ์ชื่อ “ซ่งจิ้ว” รับหน้าที่เป็นนายอำเภออยู่บริเวณชายแดนระหว่างเมืองเหลียงกับเมืองฉู่ เขาเป็นผู้เปี่ยมด้วยปัญญา และต้องการให้ชาวบ้านทั้งสองเมืองอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เมื่อฤดูปลูกแตงโมมาถึง ชาวบ้านทั้งสองฝั่งจึงเริ่มการเพาะปลูก ชาวเมืองเหลียงต่างทำงานขยันขันแข็ง ออกไปรดน้ำใส่ปุ๋ยตามกำหนด ทำให้ได้ผลผลิตเป็นแตงโมลูกใหญ่และรสชาติหวานอร่อย แต่ชาวเมืองฉู่กลับค่อนข้างเกียจคร้าน ไม่เคยรดน้ำใส่ปุ๋ย ผลผลิตที่ได้จึงทั้งน้อย ไม่สวยและมีขนาดเล็ก
ชาวเมืองฉู่จึงมองมาที่ฝั่งตรงกันข้าม พร้อมทั้งคิดว่า ทำไมแตงโมของพวกเขาทั้งลูกใหญ่และสวยงาม แถมยังมีผลผลิตเยอะแยะมากมาย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกโกรธและอิจฉา จึงได้คิดหาวิธีทำลายทิ้งเสีย
เมื่อตกกลางคืน จึงได้ข้ามไปทำลายที่ฝั่งเมืองเหลียง รุ่งเช้าชาวบ้านต่างก็ตกอกตกใจ ทำไมทั้งผลและต้นแตงโมจึงเสียหายหมด
คืนนั้นพวกเขาจึงได้อยู่ยามเฝ้าดู จนรู้ว่าชาวเมืองฉู่ข้ามเข้ามาทำลายตอนกลางดึก ชาวเมืองเหลียงจึงโมโหเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร พวกเขานำเรื่องทั้งหมดไปร้องเรียนกับทหารที่ดูแลบริเวณชายแดน ซึ่งทหารเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จึงได้นำไปรายงานให้นายอำเภอซ่งจิ้วทราบ นายอำเภอจึงเตือนว่า ความอาฆาตแค้นจะนำมาซึ่งหายนะ เมื่อใดที่มีผู้ทำผิดต่อเรา แล้วเราตอบโต้ด้วยความโกรธเกลียดแบบเดียวกัน ก็จะกลายเป็นการตามจองล้างจองผลาญที่ไม่สิ้นสุด และจะยิ่งผูกใจเจ็บต่อกัน ดังนั้น ในเมื่อผลผลิตแตงโมของเขาไม่ดี จนทำให้รู้สึกอิจฉาและโมโหโกรธา หากเราช่วยกันทำให้แตงโมของเขางอกงามเหมือนกับของเรา ก็คงจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้
ตกดึกชาวเมืองเหลียงจึงแอบข้ามฝั่งไปรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยให้ ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง แตงโมฝั่งเมืองฉู่ก็เจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจึงเริ่มสงสัยว่า แปลกจัง ทำไมแตงโมของเราจึงดูดีขึ้นผิดหูผิดตา ผ่านไปวันแล้ววันเล่าก็ใกล้จะได้เก็บเกี่ยว จึงแอบเฝ้าดูจึงได้รู้ว่า ชาวบ้านฝั่งเมืองเหลียง ข้ามมารดน้ำใส่ปุ๋ยให้ เป็นที่น่าซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง พวกเขาตอบแทนความแค้นด้วยความดี ไม่คิดจองเวรต่อกัน
เราทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่ควรทำ หากเราถูกผู้อื่นปฏิบัติไม่ดีด้วย จนรู้สึกคับข้องหมองใจ ก็ต้องรู้จักเปิดใจให้กว้าง ให้อภัย อย่าไปถือสา เมื่อคิดย้อนถึงสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อเรา ก็ขอให้ลองพยายามคิดในแง่ดี ลองไปยืนอยู่ในจุดเดียวกันกับเขาและให้อภัย แล้วเราจะยังจะไปโกรธ เกลียด อิจฉาหรือเคียดแค้น อะไรพวกเขาอีกไหม ย่อมไม่มีอีกแล้ว
ดังนั้น เราจะต้องสำนึกและละอายต่อบาป ด้วยจิตอันศรัทธามั่น นับจากนี้เป็นต้นไป ขอตั้งปณิธานจะขจัดสิ้นซึ่งสิ่งกีดขวางต่อการพัฒนาตัวเอง กีดขวางต่อการศึกษาพระธรรม จะใช้ความดีที่มีให้ถูกทาง ไม่ปล่อยให้ความคิดชั่ววูบมากีดขวางอีกต่อไป ขอตั้งปณิธานขจัดสิ้นอกุศลจิตนับจากบัดนี้เป็นต้นไป
ขอให้ทุกคนตั้งใจคิดทบทวนตนเอง ขัดเกลานิสัยสันดานอยู่เสมอ เพิ่มความดี ละความชั่ว แยกแยะถูกผิด ไม่ว่าดีหรือเลวเราล้วนต้องเป็นผู้รับผลนั้น การปฏิบัติดีต่อผู้อื่น ก็เสมือนการบรรลุธรรมของตนเอง จึงขอให้ทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจทุกขณะ