ตอนที่เราเกิดมา เราไม่สามารถที่จะเลือกเกิดได้ แล้วเราจะเลือกสภาพแวดล้อมแบบที่เราต้องการได้อย่างไร ที่จริงแล้วมันขึ้นอยู่กับวาสนาของเรา วาสนาของเรากับพ่อแม่ เมื่อเราเลือกไม่ได้ว่าจะไปเกิดกับพ่อแม่คนไหน ก็เท่ากับว่าไม่สามารถเลือกสภาพแวดล้อมที่จะเกิดได้
ตอน ปลาจ่าฝูงตัดบ่วงแห
“เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อนิจจังกลืนกินทุกสิ่ง ชีวิตคนเราสั้นนัก” นี่คือกฏธรรมชาติ ฉะนั้นเราจึงต้องใช้เวลาอย่างรู้ค่า เพราะเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้คุณจะมีอายุถึง 100 ปี ก็เป็นเพียงวันเวลาที่สั่งสมมา ยิ่งไปกว่านั้น ชีวิตก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ดังนั้นเราจึงต้องใช้ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อสั่งสมบุญกุศล นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ตอน ช่างทำรองเท้าฝันว่าได้เป็นราชา
ในชีวิตประจำวันของเรานั้น หากเรามีจิตใจมุ่งมั่นในภาระหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ชีวิตย่อมมีความสุข แต่หากเราไม่ยินดีในหน้าที่หรือบทบาทของตัวเอง ไม่พอใจในชีวิตที่เป็นอยู่ มัวแต่อิจฉาคนอื่นไปวันๆ เราก็จะรู้สึกทุกข์ใจ ใช้ชีวิตโดยไม่มีความสุข
ตอน องค์หญิงน้อยกับฟองอากาศบนผิวน้ำ
ชีวิตเป็นดั่งความฝัน แม้เราจะเข้าใจในสัจธรรมข้อนี้เป็นอย่างดี แต่กลับไม่สามารถควบคุมจิตใจตัวเองได้ รู้ทั้งรู้ว่าอะไรผิด อะไรไม่ควรทำ แต่กลับควบคุมพฤติกรรมตัวเองไม่ได้ เมื่อเกิดกิเลสขึ้นในจิตใจ ย่อมประพฤติตนไม่เหมาะสม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นสุรา ตัณหาราคะ ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงหรือลาภยศ ล้วนทำให้จิตใจลุ่มหลง จนควบคุมไม่ได้ และใช้ชีวิตอย่างลุ่มหลงมัวเมา สับสนเลอะเลือน คิดว่ามายาภาพ คือ ความจริง
ตอน ค้นหาสมบัติ
สมัยพุทธกาล เมื่อธรรมะของพระพุทธองค์เริ่มเจริญรุ่งเรืองในเมืองราชคฤห์ ทำให้เหล่านักบวชนอกพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพราหมณ์หรือนิครนถ์ ต่างทยอยหันมาศึกษาพุทธธรรม ด้านเหล่าอาจารย์เกือบ 500 คนของนักบวชนิครนถ์ซึ่งเดิมทีต่างมีสานุศิษย์ของตนเอง เมื่อเห็นลูกศิษย์ของตนเองเริ่มห่างหาย หันไปศึกษาพุทธธรรม ทำให้พวกเขาต่างคิดว่า ในเมื่อไม่มีลูกศิษย์ลูกหาแล้ว ก็เผาตัวเองให้ตายไปกับกองไฟ เพื่อไปเกิดใหม่บนสรวงสวรรค์เสียดีกว่า ว่าแล้วพวกเขาจึงเริ่มก่อกองไฟ